แนะทุนค้าปลีกไทยติดอาวุธเพิ่ม

22 ส.ค. 2560 | 12:19 น.
มั่นใจค้าปลีกไทยเติบโตถึง 5% ใน 3-5 ปี จากนโยบายภาครัฐลงทุนสาธารณูปโภคเพิ่ม แนะผู้ประกอบการเร่ง?เสริมศักยภาพ เตรียมเครื่องมือ นวัตกรรม เทคโนโลยีรองรับการแข่งขัน

นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตโดยเฉลี่ยปีละ 3% แต่ในครึ่งแรกของปีนี้ มีการเติบโตสูงขึ้น 2.8% ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปีก่อนหน้าทั้งปี อย่างไรก็ดีด้วยนโยบายของรัฐบาลในการลง ทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค รวมถึงการลงทุนของเอกชนทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้าต่างๆ จะช่วยผลักดันทำให้ตัวเลขการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกไทยพุ่งสูงถึง 5% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า

[caption id="attachment_196715" align="aligncenter" width="354"] จริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย จริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย[/caption]

ทั้งนี้จากข้อมูลของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พบว่าในครึ่งปีแรกสินค้าในหมวดสินค้าคงทน ทั้งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างยังคงผันผวน ขณะที่หมวดสินค้ากึ่งคงทน มีการเติบโตทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา แม้ว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ทำให้การจับจ่ายในหมวดสินค้ากึ่งคงทนเพิ่มขึ้นไปด้วย ปัจจัยหลักที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ คืออัตราภาษีสินค้านำเข้าแบรนด์หรูยังอยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้กลุ่มสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง เครื่องหนัง เติบโตตํ่ากว่าเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ยังได้อานิสงส์จากกลุ่มเครื่องกีฬาและสุขภาพซึ่งเติบโตตามเทรนด์ค่อนข้างมากมาช่วยพยุง

ขณะที่หมวดสินค้าไม่คงทนหรือหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน เริ่มส่งสัญญาณบวกในการฟื้นตัวช้าๆ อย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการผลักดันการใช้งบประมาณภาครัฐลงสู่ภูมิภาคและกลุ่มจังหวัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เม็ดเงินงบประมาณเริ่มไหลลงสู่ประชาชนฐานรากของประเทศอย่างชัดเจนขึ้น แต่เมื่อไตรมาส 2 ดัชนีการบริโภคแผ่วตัวลง จึงส่งผลต่อการจับจ่ายรวมทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ดัชนีการเติบโตของหมวดสินค้าไม่คงทนยังคงพยุงตัวไว้ได้ที่ 3.05%

อย่างไรก็ดีเพื่อช่วยให้ผู้ที่ทำธุรกิจค้าปลีกไทยและอาเซียนได้เข้าใจถึงกระบวนการของธุรกิจในยุคปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือ นวัตกรรม และเทคโนโลยีพร้อมทักษะรอบด้านเพื่อเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง โดยภายในงาน รีเทลเอ็กซ์ อาเซียน (RetailEX ASEAN) ครั้งนี้ ซึ่งสมาคมร่วมกับอิมแพ็คและแคลเรียน อีเว้นทส์ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2560 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะรวบรวมเครื่องมือ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ?รวมทั้งให้ความรู้ส่งเสริมผู้ประกอบการได้พัฒนาและดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก ในยุคออนไลน์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ ควบคู่กับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 300 แบรนด์และผู้เข้าเจรจาธุรกิจและชมงานจากประเทศอาเซียนกว่า 5,000 ราย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560