เฟซบุ๊คกินรวบ! 'มาร์เกตเพลส'

อีกขั้นของเฟซบุ๊กสำหรับการลุกคืบต่อยอดทางธุรกิจ โดยใช้ตัวเองเป็นฐานหลัก คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประชากรทั่วโลกจำนวนมหาศาลล้วนเป็นผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของเฟซบุ๊คที่สามารถรวบรวมทั้งคนและข้อมูลไว้เป็นของตนอย่างล้นหลามขนาดนี้ และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เฟซบุ๊คต้องการต่อยอดธุรกิจของตนเพื่อแย้งส่วนแบ่งทางการตลาดบนโลกออนไลน์ให้ได้มากที่สุด แน่นอนคงไม่ยากสำหรับเฟซบุ๊กที่จะเป็นเจ้าอีคอมเมิร์ซ ท้าจนยักษ์ใหญ่แทบทุกค่าย งานนี้พี่เบิ้มคงต้องนั้งไม่ติดไปตาม ๆ กัน

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมเฟซบุ๊คถึงสนใจอีคอมเมิร์ซมากขนาดนี้ คงเป็นเพราะว่า เมื่อไตรมาสที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของเฟซบุ๊คมีรายได้เติบโตอย่างน่าตกใจถึง 45 % ซึ่งมีมูลค่ากว่า 9,300 ล้านดอลล่าร์ และยิ่งไปกว่านั้นกว่า 98 % ของรายได้ทั้งหมดมาจากค่าโฆษณาที่ให้บริการฟรีเสียด้วย



รู้หรือไม่ว่า? เฟซบุ๊กไดเปิดมาร์เกตเพลส (Marketplace) เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้มาเจอกันโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดในยุโรปถึง 17 ประเทศแล้ว ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ออสเตรีย, เบลเยียม, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฮังการี, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส, สเปน, ฟินแลนด์, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์

นอกจากตลาดยุโรปแล้ว ที่ผ่านมามาร์เกตเพลสในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย ทั้ง 3 ประเทศนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านคนต่อปี

สำหรับมาร์เกตเพลสได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อ 10 เดือนก่อนหน้านี้ โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมของผู้ซื้อ-ผู้ขาย นั่นคือเหตุผลที่เฟซบุ๊กต้องการให้มาร์เกตเพลสเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการค้าขายอย่างแท้จริงและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งเฟซบุ๊กตั้งเป้าในการใช้บริการไว้ว่าจะต้องเวลาไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้นในการโพสต์สินค้าเพื่อขายผ่านสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตามมาร์เกตเพลสยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง คือ การสั่งซื้อ เพราะสามารถสั่งซื้อได้เฉพาะในประเทศเดียวกันเท่านั้น เพราะการซื้อข้ามประเทศอาจมีปัญหาด้านการสื่อสารและเรื่องของกฏหมาย ซึ่งข้อจำกัดเป็นที่น่าสนใจของเหล่านักธุรกิจทั่วโลก