‘ซิโน-ไทย’ตั้งศูนย์ดูแลแรงงานต่างด้าว
ยักษ์รับเหมาไม่กระทบต่างด้าวลด “ซิโน-ไทย” เผยเน้นแรงงานถูกกฎหมายมีในมือ 3,000-4,000 คนพร้อมรับมือเมกะโปรเจ็กต์ แสนล้านใน 4-5 ปี
[caption id="attachment_119659" align="aligncenter" width="503"]
ภาคภูมิ ศรีชำน[/caption]
จากกรณีที่กระทรวงแรงงานตั้งศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม- 7 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมามีเพียง 7.7 แสนคน นั้นนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าแม้แรงงานต่างด้าวจะขึ้นทะเบียนน้อย แต่ภาพรวมมองว่า บริษัทรับเหมารายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะบริษัทมีศูนย์บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายอยู่ในมือ 3,000-4000 คน ซึ่งเพียงพอต่อโครงการที่มีอยู่ในมือทั้งโครงการที่ก่อสร้างใกล้เสร็จ และโครงการที่เพิ่งประมูลได้ มูลค่า 1 แสนล้านบาทอีก 4-5 ปีข้างหน้า ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ โรงไฟฟ้า ถนน อาคาร ฯลฯ แต่อาจมีปัญหาบ้างกรณี บริษัทอื่นที่ใช้แรงงานผิดกฎหมายส่งผลให้แรงงานไม่พอและดึงแรงงานที่ถูกกฎหมายของบริษัทไปช่วยโครงการอื่นขณะที่บริษัทเล็กคาดว่าน่าจะกระทบ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการใช้กฎหมายแรงงานใหม่ที่เข้มงวดมองว่าประเทศไทยพร้อมแค่ไหนแม้แต่เงื่อนไขการย้ายถิ่นฐานที่ทำงานของบริษัทผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างแต่ละโครงการต้องแจ้ง ต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งค่ายใหญ่ หากก่อสร้างโครงการใหญ่ย่อมไม่มีปัญหา แต่รายเล็กรับงาน 1 เดือนก่อสร้างเสร็จและต้องย้ายพื้นที่ อาจหมุนแรงงานไม่ทันซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวก็น่าจะกระทบด้วยเช่นกัน
“บริษัทมีใบสั่งจ้างงานแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย และค่าแรงจะจ่ายเท่ากับคนไทยขั้นตํ่า 300 บาทต่อวัน หากมีฝีมือ จะจ้างสูงกว่านั้น”
ขณะที่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่มีกระแสข่าวว่า ไม่มีความล่าช้า ในการส่งมอบพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มองว่าเป็นไปตามแผนเพราะหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ยังเตรียมการออกแบบ การจัดจราจร รื้อย้ายเสาไฟฟ้า ฯลฯ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560
[caption id="attachment_119659" align="aligncenter" width="503"]
จากกรณีที่กระทรวงแรงงานตั้งศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม- 7 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมามีเพียง 7.7 แสนคน นั้นนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าแม้แรงงานต่างด้าวจะขึ้นทะเบียนน้อย แต่ภาพรวมมองว่า บริษัทรับเหมารายใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะบริษัทมีศูนย์บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายอยู่ในมือ 3,000-4000 คน ซึ่งเพียงพอต่อโครงการที่มีอยู่ในมือทั้งโครงการที่ก่อสร้างใกล้เสร็จ และโครงการที่เพิ่งประมูลได้ มูลค่า 1 แสนล้านบาทอีก 4-5 ปีข้างหน้า ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ โรงไฟฟ้า ถนน อาคาร ฯลฯ แต่อาจมีปัญหาบ้างกรณี บริษัทอื่นที่ใช้แรงงานผิดกฎหมายส่งผลให้แรงงานไม่พอและดึงแรงงานที่ถูกกฎหมายของบริษัทไปช่วยโครงการอื่นขณะที่บริษัทเล็กคาดว่าน่าจะกระทบ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการใช้กฎหมายแรงงานใหม่ที่เข้มงวดมองว่าประเทศไทยพร้อมแค่ไหนแม้แต่เงื่อนไขการย้ายถิ่นฐานที่ทำงานของบริษัทผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างแต่ละโครงการต้องแจ้ง ต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งค่ายใหญ่ หากก่อสร้างโครงการใหญ่ย่อมไม่มีปัญหา แต่รายเล็กรับงาน 1 เดือนก่อสร้างเสร็จและต้องย้ายพื้นที่ อาจหมุนแรงงานไม่ทันซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวก็น่าจะกระทบด้วยเช่นกัน
“บริษัทมีใบสั่งจ้างงานแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย และค่าแรงจะจ่ายเท่ากับคนไทยขั้นตํ่า 300 บาทต่อวัน หากมีฝีมือ จะจ้างสูงกว่านั้น”
ขณะที่ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่มีกระแสข่าวว่า ไม่มีความล่าช้า ในการส่งมอบพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มองว่าเป็นไปตามแผนเพราะหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ยังเตรียมการออกแบบ การจัดจราจร รื้อย้ายเสาไฟฟ้า ฯลฯ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560