ข้าพระบาท ทาสประชาชน
โดย...ประพันธุ์ คูณมี
ชั่วดีพิสูจน์กันที่ผลงาน
เมื่อ 2-3 วันก่อน เพื่อนส่งบทสัมภาษณ์ที่ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพื่อตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานและการบริหารประเทศของท่าน โดยท่านได้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า "ตอนปี 2553 เขาอยู่กลางราชประสงค์และประตูน้ำทั้งแก๊ง และเป็นคนต่อรองกับ ศอฉ.มาโดยตลอด ใครจะป่วยจะไข้เราก็ดูแลเพราะหวังว่าเขาจะเลิก สุดท้ายความรุนแรงก็เกิดขึ้น
คนเหล่านี้รู้เรื่องทั้งหมด แล้วจะเชื่อเขาหรือเชื่อผม และศาลก็รู้ตัวว่าทำหน้าที่ของเขา ผมก็รู้ตัวว่าอยู่ในฐานะอะไร เมื่อผมถือกติกาอยู่แล้วจะทำไม แม้ผมจะเข้ามาไม่ถูก แต่เมื่อเข้ามาแล้วผมไม่ได้ทำความเลว คนที่เข้ามาถูกวิธีแต่ทำความเลวเยอะแยะ ทำไมไม่โจมตีกันบ้าง" ซึ่งผู้ฟังเข้าใจว่าท่านนายกฯให้สัมภาษณ์ตอบโต้ถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข ออกมาเคลื่อนไหววิพากษ์รัฐบาล คสช.เป็นระยะๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ฟังนายกฯ ให้สัมภาษณ์เช่นนี้ เรียกเสียงเชียร์และได้ใจพี่น้องที่หมั่นไส้พวกนักการเมืองอีกฝ่าย ที่คอยโจมตีวิจารณ์รัฐบาล คสช.ไม่น้อย เพราะนักการเมืองเหล่านั้นล้วนแต่มีแผลเหวอะหวะเต็มตัว แต่หากจะพิจารณาเอาสาระ หาเหตุผลว่าทำไมท่านนายกฯ ถึงมีอารมณ์ ตอบโต้ไม่ลดละเอาเสียเลย กับใครก็ตามที่ออกมาวิจารณ์นายกฯ และรัฐบาล คสช. ซึ่งจะเห็นออกอยู่บ่อยๆ เป็นรายวัน และมีโอกาสที่จะถี่หนักขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นเรื่องน่าคิดวิเคราะห์ว่า จริงๆแล้วกลุ่มอำนาจเก่ากับผู้ถืออำนาจในปัจจุบัน ดีเลวประชาชนใช้อะไรเป็นบรรทัดฐาน ระหว่างการเมืองอำนาจเก่าที่ล่มสลายไป กับอำนาจใหม่ที่ดำรงอยู่ ประชาชนจะใช้อะไรเป็นเครื่องชี้วัดตัดสิน
สิ่งที่นายกฯ พูดถึงนั้นถูกต้อง ไม่มีใครเถียงได้เลย เพราะการเมืองไทยที่ผ่านมา นักการเมืองชอบอ้างว่าตนมาจากการเลือกตั้ง มาโดยอำนาจของประชาชน มาจากระบอบประชาธิปไตย แต่ความเป็นจริงกลับใช้อำนาจโดยไม่ฟังเสียงประชาชน ลุแก่อำนาจและใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง ที่เลวที่สุดก็คือมีพฤติการณ์ทุจริต โกงกินอย่างละโมบไม่มีความละอายแม้แต่น้อย
ตลอดช่วงเวลาร่วมทศวรรษที่ผ่านมา การเมืองไทยต้องจมปลักอยู่กับความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ท่านนายกฯ ก็ต้องไม่ลืมว่า กลุ่มการเมืองอำนาจเก่าเหล่านั้น ก็ได้ถูกประชาชนเรือนแสนเรือนล้านลุกขึ้นมาโค่นล้มโจมตีจนล่มสลายไปแล้ว สื่อมวลชนทั้งหลายก็มีบทบาทร่วมกับภาคประชาชน เปิดโปงโจมตีจนไม่อาจอยู่ในอำนาจได้ต่อไป หากไม่มีประชาชนและสื่อมวลชนที่รักชาติบ้านเมือง ร่วมกันเปิดโปงและต่อสู้ อำนาจการเมืองที่อ้างว่ามาโดยถูกต้องก็คงไม่ล่มสลาย และไม่เกิดมีรัฐบาล คสช.อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
การที่มีรัฐบาล คสช.และมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร หรือที่นายกฯพูดว่ามาโดยไม่ถูกต้องนั้น ก็เพราะประชาชนสิ้นหวังจากการเมืองที่โกงทุจริต ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง การที่ คสช.ยึดอำนาจการปกครองและเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ประชาชนทั้งหลายต่างเห็นด้วยและยอมรับในเหตุผลและความจำเป็นในเบื้องต้น ทั้งยินดียอมอดทนเปิดทางให้โอกาสรัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารบ้านเมืองโดยมิได้ต่อต้านคัดค้าน ก็ด้วยเหตุที่ทุกคนคาดหวังและเชื่อมั่นว่า ท่านจะเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ทุกคนที่ประกอบกันเป็น ครม.คงไม่มีใครคิดจะทำความเลวเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ประชาชนไม่ได้สนใจว่ารัฐบาลจะเข้ามามีอำนาจปกครองด้วยวิธีใด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ประชาชนที่สิ้นหวังจากรัฐบาลที่ผ่านมาก็ต้องการเห็นผลงานการบริการประเทศ ที่สามารถแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อย และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นการบริหารบ้านเมืองเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เศรษฐกิจดีมีความมั่นคงยั่งยืน ประเทศเจริญก้าวหน้าเยี่ยงนานาอารยประเทศ
เมื่อเข้าปีที่ 3 และกำลังย่างเข้าปีที่ 4 ของรัฐบาล คสช. เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนกำลังถามหาผลงานรัฐบาลในการบริหารประเทศที่ผ่านมา ไม่มีใครสงสัยการก้าวสู่อำนาจของท่าน แต่ท่านก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมๆ อีกต่อไปไม่ได้เช่นกัน เพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ฐานะของนายกฯ และรัฐบาล คสช.ถือว่าอยู่ในฐานะที่เต็มใจและอาสามาทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ไม่มีใครบังคับให้ท่านมาเป็นนายกฯหรือรัฐบาล การอยู่บริหารประเทศนับแต่นี้ ถือว่าท่านทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศ
การที่รัฐบาลนี้จะถูกตั้งคำถามและตรวจสอบย่อมเป็นสิทธิโดยชอบของประชาชนและสื่อมวลชน หากรัฐบาลนี้ไม่ได้ทำความเลวใดๆ เยี่ยงรัฐบาลที่ผ่านมาก็อย่าได้วิตก จงยืดอกและตอบประชาชนได้ทุกคำถาม ความล้มเหลวของรัฐบาลที่ผ่านมาล้วนถูกตรวจสอบและมีบทลงโทษแล้ว ขอให้ท่านนายกฯ โปรดระวังและตรวจสอบรัฐบาลของท่านจะดีกว่า และสนใจสร้างผลงานแก้ปัญหาให้ประชาชนมีความสุขและประทับใจในผลงานของรัฐบาล เพราะผลงานที่เป็นจริงของรัฐบาลเท่านั้น จะเป็นบทพิสูจน์ความดีเลวของรัฐบาล
จงสนใจผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน รัฐบาลในอดีตได้ตายไปนานแล้วจากความรู้สึกของประชาชน
คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน / หนังสือพิมพ์ฐานเศราฐกิจ / ฉบับ 3288 ระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค.2560