แนะไทยบุกบังกลาเทศดันเป้าค้า 2 พันล.ดอลล์

19 ส.ค. 2560 | 12:57 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2560 | 19:57 น.
บังกลาเทศชวนไทยลงทุนหนุนเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมตกลงตั้งเป้าหมายขยายการค้า2 ฝ่ายเพิ่ม 2 เท่า เป็น 2,000 ล้านดอลล์ภายใน 4 ปีเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ทำเอฟทีเอ 2 ฝ่าย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-บังกลาเทศ (Joint Trade Committee)หรือJTCครั้งที่4ระหว่างวันที่ 9-10 สิงหาคม 2560 ณ กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ว่า ประสบความสำเร็จด้วยดี ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องว่ามีศักยภาพสำหรับการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยบังกลาเทศได้เชิญชวนให้นักลงทุนจากไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ด้านการประมง อาหาร อาหารแปรรูปเกษตรสิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งทางบังกลาเทศยังขาดเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเหล่านี้

[caption id="attachment_194968" align="aligncenter" width="503"] tp9-3288-a อภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์[/caption]

บังกลาเทศชูจุดเด่นเรื่องค่าแรงที่ตกเพียง 1 ใน 3ของไทยประกอบกับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในระดับเฉลี่ยกว่า 6% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งทางการบังกลาเทศพร้อมจะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ขณะเดียวกันทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายมูลค่าการค้าขึ้นเป็น 2 เท่า จากประมาณ1,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน เป็น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี2564ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลบังกลาเทศที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้ปานกลางภายในปี 2564

นอกจากนี้ทางบังกลาเทศได้ขอให้ไทยขยายรายการสินค้าที่ได้รับโควตาปลอดภาษีอีก 36 รายการ เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันบังกลาเทศไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากข้อตกลงเดิมที่มีสินค้าอยู่ประมาณ 7,000 รายการ โดยฝ่ายไทยได้รับมาพิจารณา อีกทั้งทางบังกลาเทศได้เสนอให้มีการจัดทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ(MOU)ในด้านการส่งสินค้าทางเรือซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยจะส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมของไทยพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป

ด้านนายมิ่งพันธ์ ฉายาวิจิตรศิลป์ ประธานสภาธุรกิจไทย-บังกลาเทศ ตัวแทนภาคเอกชนไทยมองว่าความได้เปรียบของการเข้ามาลงทุนในบังกลาเทศอยู่ที่การเข้ามาใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ 3ตามสิทธิประโยชน์ที่บังกลาเทศได้รับในฐานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Country) หรือส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มองค์การความร่วมมืออิสลาม (IOC) ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่ของไทยได้เข้าไปลงทุนในบังกลาเทศแล้ว อาทิ อิตาเลียนไทยซีพี และไทย เพรสซิเดนท์ ฟูดส์ เป็นต้น

และในโอกาสนี้ นางอภิรดียังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อขายข้าวไทยปีละไม่เกิน 1ล้านตัน ระหว่างปี 2560-2564

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560