'คาราบาวกรุ๊ป'ครึ่งปีรายได้โต 40% แจกปันผล 35 สต.
"คาราบาวกรุ๊ป" อวดงบไตรมาส 2 กำไร 425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% รายได้ทั้งในและต่างประเทศเติบโตดี หนุนครึ่งปีรายได้พุ่ง 40% เผยค่าใช้จ่ายสปอนเซอร์ทีมฟุตบอลเชลซี และเปิดตัวคาราบาว กรุ๊ป ที่อังกฤษฉุดกำไรครึ่งปีหด บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 35 สตางค์ ขึ้น XD วันที่ 24 ส.ค.
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 กำไรสุทธิ 425.93 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.43 บาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 392.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.39 บาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 647.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.65 บาท ลดลง 15.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 768.75 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.77 บาท
สำหรับงวดไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 3,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,191 ล้านบาท หรือ 51.4% โดยมีรายได้จากการขายในประเทศ 1,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 24.0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ที่ว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการผลิตจำนวน 197 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากกาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงและกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มที่ออกวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังปี2559 ซึ่งมีรายได้จากการขายสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2560 รวมกันเป็นจำนวน 203 ล้านบาท
การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์รับจ้างจัดจำหน่าย 177 ล้านบาท ส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ที่ผลิตด้วยตนเอง ลดลง 17 ล้านบาทหรือ 1.1% เป็นผลมาจากการลดลงของเครื่องดื่มเกลือแร่ 35 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจตลาดต่างประเทศ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ จำนวน 1,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 806ล้านบาทหรือ 104.8% สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายไปยังประเทศจีน 569 ล้านบาท จากการวางกลยุทธ์ในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศจีน ให้เป็นกลยุทธ์ประเทศ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการทำการตลาดในภูมิภาคเอเชีย ขณะเดียวกันปริมาณความต้องการเครื่องดื่มบำรุงทั้งแบบขวดและแบบกระป๋องในกลุ่มประเทศ CLMV ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 232 ล้านบาท หรือ 72%
ส่วนงวด 6 เดือนกำไรสุทธิลดลง เกิดจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าใช้จ่ายขายและบริหารจากการเริ่มรับรู้ค่าใช้จ่ายจากการเป็นผู้สนับสนุนให้แก่Chelsea Football Club Limited และกิจกรรมการเปิดตัว Carabao Cup ที่ประเทศอังกฤษ
ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 6,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,777 ล้านบาท หรือ 40.2% โดยมีรายได้จากการขายในประเทศ 3,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 786 ล้านบาท หรือ 26.8% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 2,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 991 ล้านบาท หรือ 66.7%
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดต่างประเทศการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักมาจากการเริ่มขายสินค้าส่งออกไปยังประเทศจีน 612 ล้านบาท หรือ 24.7% ของรายได้จากการขายต่างประเทศ เครื่องจักรสายการผลิตที่กลุ่มบริษัทฯ ลงทุนติดตั้งใหม่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถดำเนินการผลิตในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองปริมาณความต้องการเครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบกระป๋องในกลุ่มประเทศ CLMV ประเทศอัฟกานิสถานและประเทศเยเมน และประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศใหม่ที่มีขนาดใหญ่และศักยภาพการเติบโตสูงในอนาคต
คณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายเงินปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2560-30 มิ.ย. 2560 และกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 28 ส.ค. 2560 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 29 ส.ค. 2560 โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 24 ส.ค. 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2560
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติในหลักการเพื่อจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% เพื่อดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์
สำหรับงวดไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 3,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,191 ล้านบาท หรือ 51.4% โดยมีรายได้จากการขายในประเทศ 1,918 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 24.0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ที่ว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการผลิตจำนวน 197 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากกาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงและกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มที่ออกวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังปี2559 ซึ่งมีรายได้จากการขายสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2560 รวมกันเป็นจำนวน 203 ล้านบาท
การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์รับจ้างจัดจำหน่าย 177 ล้านบาท ส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ที่ผลิตด้วยตนเอง ลดลง 17 ล้านบาทหรือ 1.1% เป็นผลมาจากการลดลงของเครื่องดื่มเกลือแร่ 35 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนกำไรสุทธิลดลง เกิดจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าใช้จ่ายขายและบริหารจากการเริ่มรับรู้ค่าใช้จ่ายจากการเป็นผู้สนับสนุนให้แก่Chelsea Football Club Limited และกิจกรรมการเปิดตัว Carabao Cup ที่ประเทศอังกฤษ
ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 6,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,777 ล้านบาท หรือ 40.2% โดยมีรายได้จากการขายในประเทศ 3,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 786 ล้านบาท หรือ 26.8% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 2,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 991 ล้านบาท หรือ 66.7%
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดต่างประเทศการเพิ่มขึ้นของรายได้หลักมาจากการเริ่มขายสินค้าส่งออกไปยังประเทศจีน 612 ล้านบาท หรือ 24.7% ของรายได้จากการขายต่างประเทศ เครื่องจักรสายการผลิตที่กลุ่มบริษัทฯ ลงทุนติดตั้งใหม่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถดำเนินการผลิตในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองปริมาณความต้องการเครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบกระป๋องในกลุ่มประเทศ CLMV ประเทศอัฟกานิสถานและประเทศเยเมน และประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศใหม่ที่มีขนาดใหญ่และศักยภาพการเติบโตสูงในอนาคต
คณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายเงินปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2560-30 มิ.ย. 2560 และกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 28 ส.ค. 2560 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 29 ส.ค. 2560 โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 24 ส.ค. 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2560
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติในหลักการเพื่อจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% เพื่อดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์