บริษัทไทย บุกอินเตอร์!
ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคที่เงินลงทุนของบริษัทไทยไปต่างประเทศ มีมูลค่ามากกว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย พบว่าในปี 2559 บริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศสุทธิ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีมูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีรายการลงทุนขนาดใหญ่เกิน 1 หมื่นล้านบาท จำนวน 3 รายการซึ่งมีมูลค่ารวม 7.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 41% ของมูลค่าเงินลงทุนรวมในปี 2559
ณ สิ้นปี 2559 บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนทางตรงในต่างประเทศจำนวน 198 บริษัท คิดเป็น 39% ของบริษัททั้งหมด 511 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 1.07 ล้านล้านบาท หรือ 71% ของมาร์เก็ตแคป โดยมีบริษัทลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 192 บริษัทในปีก่อน
ในจำนวน 198 บริษัทดังกล่าว มี 78% ลงทุนในอาเซียน และ 59% ลงทุนใน CLMV โดยลงทุนในเมียนมามากกว่าในประเทศอื่น รวมถึงบริษัทในกลุ่มทรัพยากรมีสัดส่วนสูงกว่ากลุ่มอื่นเช่นเดียวกับในปีก่อน
ขณะเดียวกันบริษัทจำนวน 238 บริษัท มีรายได้จากต่างประเทศซึ่งรวมงานในต่างประเทศและรายได้จากการส่งออกในปี 2559 มีมูลค่าสุทธิ 2.3 ล้านล้านบาทซึ่งลดลง 1.6% จากปี 2558 หากพิจารณาการเติบโตในระยะยาวโดยคำนวณจากบริษัทเดิมที่แสดงรายได้จากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2549-2559 จำนวน 107 บริษัทพบว่า รายได้จากต่างประเทศ เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ซึ่งสูงกว่ารายได้ในประเทศที่เติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี เป็นเหตุให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศต่อรายได้รวมของ 107 บริษัทดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 47% ของรายได้รวมในปี 2559 จาก 36% ของรายได้รวมในปี 2549
นอกจากนั้น บริษัทจดทะเบียนมีศักยภาพเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจต่างประเทศทั้งการลงทุนทางตรง และ/หรือมีรายได้จากต่างประเทศ (Economic Exposure Universe) สำหรับปี 2559 มีบริษัทใน Global Economic Exposure Universe จำนวน 289 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 282 บริษัทในปีก่อน ในขณะที่บริษัทใน ASEAN Economic Exposure Universe และ CLMV Economic Exposure Universe มีจำนวน 175 และ 130 บริษัท ตามลำดับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,287 วันที่ 13 -16 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ณ สิ้นปี 2559 บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนทางตรงในต่างประเทศจำนวน 198 บริษัท คิดเป็น 39% ของบริษัททั้งหมด 511 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 1.07 ล้านล้านบาท หรือ 71% ของมาร์เก็ตแคป โดยมีบริษัทลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 192 บริษัทในปีก่อน
ในจำนวน 198 บริษัทดังกล่าว มี 78% ลงทุนในอาเซียน และ 59% ลงทุนใน CLMV โดยลงทุนในเมียนมามากกว่าในประเทศอื่น รวมถึงบริษัทในกลุ่มทรัพยากรมีสัดส่วนสูงกว่ากลุ่มอื่นเช่นเดียวกับในปีก่อน
ขณะเดียวกันบริษัทจำนวน 238 บริษัท มีรายได้จากต่างประเทศซึ่งรวมงานในต่างประเทศและรายได้จากการส่งออกในปี 2559 มีมูลค่าสุทธิ 2.3 ล้านล้านบาทซึ่งลดลง 1.6% จากปี 2558 หากพิจารณาการเติบโตในระยะยาวโดยคำนวณจากบริษัทเดิมที่แสดงรายได้จากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2549-2559 จำนวน 107 บริษัทพบว่า รายได้จากต่างประเทศ เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ซึ่งสูงกว่ารายได้ในประเทศที่เติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี เป็นเหตุให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศต่อรายได้รวมของ 107 บริษัทดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 47% ของรายได้รวมในปี 2559 จาก 36% ของรายได้รวมในปี 2549
นอกจากนั้น บริษัทจดทะเบียนมีศักยภาพเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจต่างประเทศทั้งการลงทุนทางตรง และ/หรือมีรายได้จากต่างประเทศ (Economic Exposure Universe) สำหรับปี 2559 มีบริษัทใน Global Economic Exposure Universe จำนวน 289 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 282 บริษัทในปีก่อน ในขณะที่บริษัทใน ASEAN Economic Exposure Universe และ CLMV Economic Exposure Universe มีจำนวน 175 และ 130 บริษัท ตามลำดับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,287 วันที่ 13 -16 สิงหาคม พ.ศ. 2560