โซนี่พิคเจอร์สบุกไทย ตั้งบริษัทขายภาพยนตร์

ตลาดหนังในไทยยังโตได้เล็กน้อย 1-2% เหตุโรงหนังขยายตัวน้อยคนหันไปดูคอนเทนต์ผ่านมือถือ คาดปีนี้มีมูลค่า 4,600 ล้าน ขณะที่โซนี่ พิคเจอร์สรุกตลาดหนังในไทยตั้งบริษัทจัดจำหน่ายทำตลาดในไทย หวังโกย 800 ล้าน ก่อนเดินหน้าธุรกิจจำหน่ายคอนเทนต์โทรทัศน์ปลายปี

ตลาดภาพยนตร์ในประเทศไทยหลังปี 2543 เป็นต้นมามีอัตราการเติบโตเพียง 1-2%เนื่องจากข้อจำกัดจากจำนวนโรงภาพยนตร์ที่ขยายตัวน้อยลง โดยช่วงปีที่ผ่านมาตลาดภาพยนตร์มีมูลค่า 4,400 ล้านบาท แบ่งเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดมูลค่า 3,690 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 82% ภาพยนตร์ไทยมูลค่า 558 ล้านบาท สัดส่วน 13% และภาพยนตร์สัญชาติอื่นๆมูลค่า 259 ล้านบาท สัดส่วน 6% ซึ่งปี 2560 คาดว่าตลาดภาพยนตร์ยังคงมีอัตราการเติบโตเพียง 1-2%หรือมีมูลค่าตลาดไม่เกิน 4,600 ล้านบาท

นายรชต ธีระบุตร กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ โซนี่ ฟิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าแม้ว่าตลาดภาพยนตร์จะเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่ยังถือว่าดีกว่าอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่เติบโต เพราะประเทศไทยยังคงมีข้อจำกัดด้านการขยายตัวของโรงภาพยนตร์ และพฤติกรรมผู้บริโภคหันไปดูคอนเทนต์ผ่านมือถือมากขึ้นประกอบกับราคาตั๋วมีการปรับราคาขึ้นเพียงเล็กน้อยโดยปีที่ผ่านมามีราคาตั๋วเฉลี่ย 160 บาทในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 161 บาทซึ่งถือว่าไม่ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นขณะที่โรงภาพยนตร์มีการจัดทำโปรโมชันอย่างต่อเนื่องด้วยหากตลาดภาพยนตร์จะเติบโตได้ในอัตราเลข 2 หลักจะมีตัวแปรสำคัญ คือ ค่ายโรงภาพยนตร์รายใหญ่ 2 ราย มีการขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น

สำหรับค่ายภาพยนตร์โซนี่พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนลได้ทำการรุกตลาดและให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการได้จัดตั้งค่ายภาพยนตร์ใหม่ ภายใต้ชื่อ โซนี่ ฟิคเจอร์สเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อจัดจำหน่ายภาพยนตร์ใน 3 ประเทศหลัก ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่เป็นบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในสังกัดของตนเองเป็นเอกเทศ ซึ่งในประเทศไทยได้เปิดใช้สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่อาคารจามจุรีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยขณะเดียวกันทางโซนี่ยังเตรียมที่จะเปิดสำนักงานโซนี่ พิคเจอร์เทเลวิชั่นและโซนี่ พิคเจอร์เทเลวิชั่น แอดน์ เน็ตเวิร์ค ภายในสิ้นปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายรายได้จากจัดจำหน่ายภาพยนตร์บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วประเทศในปีแรกไว้ 800 ล้านบาท จากภาพยนตร์จำนวน 20 เรื่องซึ่งช่วงครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 223 ล้านบาทส่วนปีที่ผ่านมามีรายได้ 456 ล้านบาทจากภาพยนตร์ 15 เรื่อง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,287 วันที่ 13-16 สิงหาคม พ.ศ. 2560