อัยการหักล้าง ‘ยิ่งลักษณ์’ ยื่นปิดคดีข้าวเนื้อหาครบทุกประเด็น

15 ส.ค. 2560 | 06:20 น.
เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ ก็จะถึงวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันพิพากษาคดี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าว ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น

ยิ่งใกล้วันตัดสินสังคมก็ยิ่งเกาะติดอย่างใกล้ชิด เพราะหลังอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ แถลงปิดคดีด้วยวาจา เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กระบวนการทางศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ให้คู่ความสามารถส่งคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้

++อัยการยื่นหักล้าง “ยิ่งลักษณ์”
โฟกัสไปที่ความพร้อมของอัยการ ได้แสดงความมั่นใจในการยื่นเอกสารแถลงปิดคดี โดย นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน อัยการสูงสุด คณะทำงานคดีจำนำข้าว ระบุว่า การจัดทำร่างแถลงปิดคดี มีเนื้อหาครบถ้วนทุกประเด็น ทั้งในส่วนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้คัดค้านหลักฐานโจทย์และอัยการ และได้ชี้ให้เห็นข้อพิรุธของพยานจำเลยที่ได้นำเข้าไต่สวน ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับองค์คณะศาลฎีกาฯ เป็นผู้พิจารณาระหว่างลงโทษกับยกฟ้อง ถือเป็นดุลพินิจของศาล

[caption id="attachment_194538" align="aligncenter" width="503"] สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ[/caption]

ส่วนฝั่งจำเลยในระหว่างรอวันชี้ชะตาจะออกมาเป็นหัวหรือก้อย ปรากฏความเคลื่อนไหวของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ที่ลงพื้นที่พบปะกับมวลชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ออกมาการันตีว่า นางสาวยิ่งลักษณ์จะไม่หลบหนีไปต่างประเทศ พร้อมอยู่ฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ในการดำเนินนโยบายจำนำข้าวให้ถึงที่สุด

++ยิ่งลักษณ์ไม่ยอมติดคุกแน่
ด้านนายตระกูล มีชัย อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นเกี่ยวกับการตัดสินคดีจำนำข้าวในวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งมีมวลชนจำนวนมากจะมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า แม้จะมีการนำคนมาให้กำลังใจ ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดม็อบจำนวนมหาศาล อาจจะไม่ถึงหมื่นคน ซึ่งจำนวนประมาณนี้รัฐจัดการได้ แม้ว่าทางนางสาวยิ่งลักษณ์ พยายามแสดงภาพคนจำนวนมากออกมาสู่สังคม แต่ก็คงกดดันอะไรไม่ได้ เพราะคำพิพากษาเขียนมาก่อนวันอ่านคำพิพากษาแล้ว

“มันอาจจะมีประเด็นว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า อาจจะพอรู้กระเซ็นกระสายถึงผลของคดีว่าจะออกมาอย่างไร เช่น อาจจะพอรู้ว่า หนึ่งไม่ผิด มวลชนก็อาจจะมาให้กำลังใจเพื่อสร้างกำลังและสร้างมวลชนให้ฮึกเหิมเพื่อเตรียมสำหรับการเมืองครั้งต่อไป หรือประเด็นสอง รู้อยู่ว่าผิดแต่ไม่ถึงขนาดจำคุก คือรอลงอาญา แต่ถ้ารู้ว่าผิดและถูกจำคุกด้วย ผมคิดว่าเขาคงไม่มาฟังผล ผมมั่นใจว่าเขาคงไม่เสี่ยงที่จะเอาตัวเองมาอยู่ในคุก เพราะถึงแม้จะอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน ถ้าผิดก็ต้องเข้าคุกแล้ว เพราะฉะนั้นการเอาคนมาจำนวนมหาศาล แบบคดีของนายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนละอย่างกัน ยิ่งมีพระราชพิธีใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้ คนไทยคงไม่เอาด้วย ยังไงก็ตามผมคิดว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ยอมติดคุกแน่นอน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าศาลท่านพิจารณาอย่างไร”

 

อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯผู้นี้ ยังให้ความเห็นว่า คดีจำนำข้าวที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย เป็นคดีใหม่ เป็นเรื่องการบริหารราชการ และการใช้อำนาจในการควบคุมการบริหาร ไม่เคยมีคดีแบบนี้เข้าสู่การพิจารณาเลย แม้แต่ตัวข้าราชการที่ละเลยปฏิบัติหน้าที่ นางสาวยิ่งลักษณ์เองก็สู้ว่าตนเองไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการไม่ควบคุมการบริหาร หรือพยายามสู้ว่ามีหลักฐานการประชุมที่ต่างๆ แต่ปมที่น่าสนใจคือ การรับผิดชอบในเชิงนโยบาย ไม่ใช่ต้องรับผิดชอบที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ต้องคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการนโยบายข้าวทั้งคณะ เพราะระบบราชการของไทย นายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งหัวหน้ารัฐบาลจะตัดสินใดๆ ต้องใช้มติคณะรัฐมนตรี อำนาจนายกรัฐมนตรีคนเดียวมีเพียงอำนาจตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 7 เท่านั้น ช่องทางนี้จึงไม่รู้ว่าเขาสู้กันหรือไม่ เพราะถ้าสู้ช่องทางนี้ การฟ้องนายกรัฐมนตรีคนเดียวคงไม่ใช่

++ชี้“ยิ่งลักษณ์”โอกาสชนะยาก
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการการเมือง ซึ่งติดตามคดีจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ มาอย่างต่อเนื่อง ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้สิทธิจำเลยในการอุทธรณ์คดี แต่ดูแนวโน้มในการต่อสู้คดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีโอกาสเพลี่ยง พลํ้าเพราะมีจุดอ่อนมาก หากประเมินการต่อสู้เหมือนการทำข้อสอบ ดูแล้วความมั่นใจในเนื้อหาสาระที่เขาทำ ไม่ผ่าน แค่ทำข้อสอบครั้งใหญ่ และทำแบบเต็มที่ก็ยังไม่ผ่าน และเงียบ ไม่มีการตอบโต้เมื่อมีการแฉหลักฐานเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว

“ถ้าสมมติว่าศาลตัดสินว่าผิด อุทธรณ์ไปแล้วโอกาสชนะก็ยาก ซึ่งในการอุทธรณ์ก็อาจต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว ต้องเสียเงินประกันตัวไม่รู้เท่าไร เพราะค่าเสียหายเยอะมาก สุดท้ายเป็นไปได้หรือไม่ที่อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ อาจจะต้องหนี ก่อนวันที่ 25 สิงหาคมนี้ แม้ว่ายังมีเวลาในการสู้ก็ตาม แต่โอกาสรอดยาก”

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตอีกว่า สมมติผลออกมาว่าแพ้ ถูกตัดสินจำคุก แล้วมีสิทธิอุทธรณ์ ก็ต้องหาหลักทรัพย์มาประกันตัวเยอะ ถ้าอยู่จนถึงวันอ่านคำพิพากษา ซึ่งโอกาสชนะยาก นึกภาพดูว่าจะเลือกที่จะอยู่อีกหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ก็ถูกริบเงินประกัน ต้องเสียเงินฟรีๆ ถ้าคิดในมุมนี้ก็สู้ไม่อยู่ตั้งแต่ต้น ไม่งั้นก็ต้องเสียเงินฟรีๆ เพื่อประกันตัวเอง ซึ่งไม่รู้กี่สิบล้านบาท

“คนส่วนใหญ่มองว่าคุณยิ่งลักษณ์ น่าจะอยู่ต่อสู้คดี เพราะมีสิทธิอุทธรณ์ แต่คนในวงการวิเคราะห์ว่า หากจะต้องเสียเงินไม่รู้กี่สิบล้านในการประกันตัว สุดท้ายก็ไม่น่าจะอยู่เพื่อฟังคำอุทธรณ์ เพราะโอกาสพลิกยากมาก ถ้าหนีก็จะเสียเงินประกันฟรี สู้ไม่เสียเงินตั้งแต่ต้นไม่ดีกว่าหรือ เพราะถ้าอุทธรณ์แล้วโดน ก็ต้องเข้าคุกเลยฟังดูแล้วก็สมเหตุสมผล”
มุมวิเคราะห์ดังกล่าว อาจเป็นได้หรือไม่เป็นไปได้ แต่นาทีนี้ ทุกสายตาจับจ้องการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศทุกฝีก้าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,287 วันที่ 13 -16 สิงหาคม พ.ศ. 2560