บางจากเล็งซื้อโรงกลั่นน้ำมัน ชี้อาเซียนธุรกิจยังเติบโตรับความต้องการใช้เพิ่ม

13 ส.ค. 2560 | 11:58 น.
บางจากเร่งศึกษาซื้อกิจการโรงกลั่นนํ้ามันพ่วงปิโตรเคมีในต่างประเทศ เป้ากำลังการผลิตไม่ตํ่ากว่า 2 แสนบาร์เรลต่อวัน เผยภายใน 5 ปีต้องมีความชัดเจน พร้อมทุ่มเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ปรับปรุงขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นในประเทศเพิ่มเป็น 1.35 แสนบาร์เรลต่อวัน รองรับความต้องการใช้นํ้ามันเพิ่ม

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโรงกลั่นและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้านํ้ามันบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้บางจากอยู่ระหว่างศึกษาซื้อกิจการโรงกลั่นนํ้ามันและผลิตปิโตรเคมีร่วมด้วยในต่างประเทศ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบื้องต้นจะต้องมีกำลังการผลิตประมาณ 2 แสนบาร์เรลต่อวัน

สำหรับการเข้าซื้อกิจการหรือหุ้นในโรงกลั่นครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า ความต้องการใช้นํ้ามันทั่วโลกยังเติบโตสูงขึ้น รวมทั้งมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ขณะที่การลงทุนสร้างโรงกลั่นนํ้ามันใหม่จะต้องเป็นขนาดใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการหรือซื้อหุ้นของโรงกลั่นนํ้ามันและมีปิโตรเคมีพ่วงด้วยนั้น น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ส่วนจะสรุปได้เมื่อใดนั้น คงจะเร็วเกินไป เพราะอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ภายใน 5 ปีนี้ จะมีความชัดเจนแน่นอน เพราะงบส่วนหนึ่งได้นำไปบรรจุอยู่ในแผน 5 ปี(2560-2564) แล้ว

tp10-3287-a ส่วนแผนการลงทุนโรงกลั่นนํ้ามันแห่งใหม่ในประเทศ บางจากยังไม่มีแผน แต่จะเป็นการปรับปรุงเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีกำลังการกลั่นอยู่ที่ 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มเป็น 1.3-1.35 แสนบาร์เรลต่อวัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในแผนลงทุน 5 ปีเช่นกัน ปัจจุบันบางจากอยู่ระหว่างทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เพื่อนำมาประกอบการขออนุญาตกรมโรงงานอุตสาหกรรมต่อไป

นอกจากนี้ บางจากยังมีงบลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นนํ้ามันปีละ 1 พันล้านบาทซึ่งเป็นการปรับปรุงปกติ อาทิการเพิ่มปริมาณการผลิต การลดใช้พลังงาน ซึ่งยังไม่รวมการลงทุนใหม่ๆ ส่วนการขยายลงทุนโรงกลั่นนํ้ามันเฟส 2 คงไม่มี แม้ว่าพื้นที่โรงกลั่นยังสามารถทำได้ เพราะกังวลปัญหากำลังการผลิตที่ล้นเพราะบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มีแผนขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวันภายในปี 2561

นายพงษ์ชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา บางจากมีกำลังการกลั่นนํ้ามันดิบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 1.21 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าประสิทธิภาพของโรงกลั่นที่มีเพดานการกลั่นอยู่ที่ 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากค่าการกลั่นและราคานํ้ามันเตาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงความต้องการใช้นํ้ามันในประเทศยังเติบโต ดังนั้น กำลังการกลั่นเฉลี่ยของบางจากในปีนี้ จะอยู่ที่ 1.15 แสนบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าเป้าเดิมที่ 1.11 แสนบาร์เรลต่อวัน เทียบกับปี 2559 มีกำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนบาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ แนวโน้มค่าการกลั่นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาส 1เนื่องจากในเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นช่วงเดินทางท่องเที่ยวและเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรทำให้ความต้องการใช้นํ้ามันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 6.6 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่ากำลังการกลั่นนํ้ามันดิบจะอยู่ที่ 1.1 แสนบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนและนํ้าท่วม ทำให้ความต้องการใช้นํ้ามันลดลง แต่ค่าการกลั่นกลับสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สำหรับยอดขายนํ้ามันของบางจากในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-พฤษภาคม 2560) บางจากมียอดขายนํ้ามันสำเร็จรูปเติบโตสูงกว่าตลาดในประเทศ ที่มียอดขายนํ้ามันเติบโต 1.7%แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนจะพบว่ายอดขายนํ้ามันตลาดรวมปี 2559 ที่ผ่านมา โตผิดปกติอยู่ที่ 7%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,287 วันที่ 13 -16 สิงหาคม พ.ศ. 2560