FSMART ครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม 50% รายได้กว่า 1,609 ล.

11 ส.ค. 2560 | 13:12 น.
บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส โชว์งบ 6 เดือน มีรายได้รวม 1,609 ล้านบาท เพิ่ม 48% กำไร 275 ล้านบาท เพิ่ม 50% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากยอดเติมเงินรวมกว่า 8,778 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 มีรายได้ 832 ล้านบาท กำไรสุทธิ 144 ล้านบาท ชี้ขยายตู้ต่อเดือนเกินแผน แถมยอดโอนเงินทะลุเป้าผลักดันการเติบโต เผยเตรียมโรดโชว์กองทุนที่ต่างประเทศ  เล็งเพิ่มแบงก์เพื่อโอนเงินไตรมาส 4 แต่ยังคงเป้ายอดเติมปีนี้ที่ 32,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนตู้ 122,000 ตู้ทั่วประเทศ

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) “FSMART” ผู้นำช่องทางการชำระเงินผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 ว่า บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 1,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 519 ล้านบาท หรือ 48% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% หรือ 92 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้ 1,090 ล้านบาท และกำไร 183 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้และกำไรมาจากการขยายตู้เติมเงินที่ปัจจุบันมีจำนวน 110,563 ตู้ทั่วประเทศ มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 79,608 ตู้ คิดเป็นอัตราการเพิ่มตู้เฉลี่ย 3,000 ตู้ต่อเดือนมากกว่าแผนที่วางไว้ที่ 2,000 ตู้ต่อเดือน เช่นเดียวกับบริการอื่นๆมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะบริการโอนเงินที่ล่าสุดมีการใช้บริการไม่น้อยกว่า 16,400 รายการต่อวัน และรายได้จากช่องทางอื่นๆที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ การเพิ่มบริการหน้าตู้ให้ครอบคลุมทั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก การชำระบิล รวมถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านตู้บุญเติมหน้าตู้บุญเติมยังเป็นส่วนผลักดันให้มีการใช้งานหน้าตู้เพิ่มขึ้นส่งผลต่อผลประกอบการที่มีการเพิ่มขึ้นดังกล่าว

[caption id="attachment_193542" align="aligncenter" width="335"] นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)[/caption]

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จำนวน 832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267 ล้านบาท กำไรสุทธิ 144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท  หรือเพิ่มขึ้น 47% และ 51% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 565 ล้านบาท และกำไร  95 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักยังมาจากการเติมเงินมือถือประมาณ 84% การโอนเงินผ่านธนาคาร 10% การจ่ายบิลต่างๆ 2% การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 1% ที่เหลือจากบริการอื่นๆ เช่น การจ่ายบิล เติมเกมส์ ชั่งน้ำหนัก เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทมีสินค้าที่ดำเนินการภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” 4 สินค้า ได้แก่ 1.ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมที่ปัจจุบันมีจำนวน 110,563 ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตู้บุญเติมที่มีเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่ประมาณ 36,000 จุดทั่วประเทศ คิดเป็น 30% ของตู้ทั้งหมด 2.ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ เเละเติมเงินมือถือ (บุญเติม เวนดิ้ง แมชชีน แอนด์ ท้อปอัพ)มีจำนวน 1,000 จุดทั่วประเทศ 3.บุญเติม เคาน์เตอร์เซอร์วิส 600 จุดทั่วประเทศ และสุดท้ายตู้น้ำ RO ที่มีจำนวน 500 ตู้ทั่วประเทศ

“การดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต่างร่วมแรงร่วมใจทำงาน จนสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเรื่องของการขยายจำนวนตู้ได้เกินเป้าหมาย สะท้อนจากรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้น ทำให้บริษัทเป็นที่น่าจับตามองของคู่ค้า  และนักลงทุน จนได้เป็นหนึ่งในหุ้นไทยที่ถูกคัดเลือกเข้าดัชนีจาก  5 บริษัท ได้แก่ BCPG, BIG, FSMART, PTL และ THANI ที่มี Market Cap รวมกันกว่า 8.06 หมื่นล้านบาท (ณ วันที่ 15 พ.ค. 60) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2560 เป็นต้นมา ซึ่ นอกจากนี้ เรายังได้รับรางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในงาน  MONEY & BANKING AWARDS 2017 ที่จัดโดยนิตยสารการเงินธนาคารอีกด้วย ต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการเติบโตของบริษัทที่แข็งแกร่งตามนโยบายของบริษัท”นายสมชัย กล่าว

ขณะที่ในเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้ บริษัทมีแผนที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับกองทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา 22 กองทุน และเดินทางร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในการนำเสนอข้อมูลแก่กองทุนในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังเตรียมเข้าร่วมงาน Thailand Focus 2017 ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้อีกด้วย

นายสมชัย กล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2560 บริษัทยังเดินตามแผนการขยายตู้เติมเงินบุญเติมใหม่เฉลี่ยเดือนละ 2,000 ตู้ โดยมีเป้าหมายตู้เติมเงินบุญเติมอยู่ที่ 122,000 ตู้ทั่วประเทศในปีนี้เช่นเดิม ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดเติมเงินที่มีเป้าหมายที่ 32,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทพยายามให้บริการใหม่ๆหน้าตู้เพื่อเข้าถึงลูกค้า และเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น อาทิ การซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์บนหน้าตู้บุญเติม ที่จะเริ่มดำเนินการได้ในเร็วๆนี้  นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทจะเปิดให้บริการโอนเงินผ่านธนาคารเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เพิ่มจำนวนธนาคารในการโอนเงินที่มีอยู่ 2 ธนาคารเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภค และเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการหน้าตู้บุญเติมเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” ยังถือเป็นผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ ที่แบ่งผลประโยชน์ร่วมกับผู้ลงทุนเจ้าเดียวในประเทศไทย แตกต่างกับผู้ประกอบการรายอื่นๆที่มีการขายขาดตู้เติมเงิน โดยการดำเนินงานบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีต่อตัวแทนและบริษัท โดยจะขยายจำนวนตู้ในทำเลที่มีคุณภาพ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 130,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการหน้าตู้บุญเติมประมาณ 15.1 ล้านคนต่อเดือน และมียอดทำรายการหน้าตู้บุญเติมที่ประมาณ 2.22 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีผู้ใช้ 14.8 ล้านคนต่อเดือน