ปักธง 2 ระยะ รื้อใหญ่! กม.มัดมือธุรกิจ

11 ส.ค. 2560 | 13:26 น.
ทปก.จัดสัมมนาแนวทางปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการไทย หวังลดกฎหมายล้าสมัยและเสนอกฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ เดินแผน 2 ระยะเลิกกฎหมายมัดมือต่อด้วยรื้อกฎหมายใบอนุญาต

เมื่อวานวันนี้ (10 ส.ค.60) เว็บไซต์ www.radioparliament.net เผยแพร่ข่าว คณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจของประชาชน ภายใต้คณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย (ทปก.) จัดการสัมมนาแนวทางปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการไทย เพื่อรองรับ Thailand4.0 ขึ้น ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา เข้าร่วมกว่า 400 คน

kobsak

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย เป็นประธานเปิดงานพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง แนวทางการปฏิรูปกฎหมาย ว่า กฎหมายเป็นส่วนสำคัญของระบบราช และการปฏิรูปกฎหมายถือเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีผลกระทบในวงกว้าง จึงต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน มีกระบวนการเป็นระบบและเกิดประโยชน์ต่อสาธารณชน การปฏิรูปกฎหมายเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนและต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐมีการบังคับใช้กฎหมายเกินขอบเขตที่บัญญัติไว้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายเดิมที่มีเนื้อหาขัดแย้งกัน ยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่จำเป็น พร้อมกับต้องเสนอกฎหมายใหม่เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งความสำเร็จของการปฏิรูปกฎหมายต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐผู้ดูแลกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจของประชาชน กล่าวว่า สัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจงทิศทางการดำเนินของทปก.ที่จะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการไทย และเกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และคณะทำงานของอนุกรรมการฯ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินงานแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรกเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2560 จะพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการของไทย ทั้งในระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และกฎหมายลำดับรอง ได้แก่ กฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่ล้าสมัยและมีความซ้ำซ้อน ส่วนระยะที่สอง เดือนพฤศจิกายน 2560 – มิถุนายน 2561 พิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่กำหนดให้มีใบอนุญาตที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดำเนินธุรกิจของประชาชน

 

ทั้งนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องจัดการกฎหมายอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งในอนาคตโลกจะเข้าสู่ยุคที่มีการใช้เทคโนโลยีเงินตราสมัยใหม่ คลังข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบปัญญาประดิษฐ์ และการเงินไร้พรมแดน ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้จะช่วยลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคเอกชน รวมทั้งเป็นการวางโครงสร้างของกฎหมายในระยะยาว ช่วยลดขั้นตอนไปสู่ระบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดภาระและขั้นตอนของภาคธุรกิจได้

ขณะที่นายบวรศักดิ์  อุวรรณโณ ประธานกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย และที่ปรึกษา คณะกรรมการ ป.ย.ป. กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของ ทปก. ว่า การทำงานจะแบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านสร้าง ปรับปรุง และยกเลิกกฎหมายเพื่อส่งเสริมโลกาภิวัฒน์ และด้านกฎหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดย ทปก.มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องสถานการณ์หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน รวมทั้งมีการตรวจสอบ และติดตามการเสนอกฎหมายที่ต้องจัดทำขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปสู่ Thailand 4.0ได้นั้นต้องใช้ทวิยุทธศาสตร์ คือภาคธุรกิจขนาดใหญ่ต้องใช้ยุทธศาสตร์โลกาภิวัฒน์พัฒนา ขณะภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือผู้มีรายได้น้อย ต้องขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ซึ่งความสำเร็จของการปฏิรูปกฎหมายขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ประกอบด้วย ความร่วมมือของข้าราชการในส่วนราชการ การทำงานอย่างเป็นระบบ การมีส่วนร่วมของสังคม และเจตจำนงทางการเมือง ทั้งนี้ เชื่อว่า หากทุกฝ่ายพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน จะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงได้สำเร็จ