EKH ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังไฮซีซั่นธุรกิจ ครึ่งปีแรกโกยรายได้ 243 ล.

10 ส.ค. 2560 | 08:44 น.
บิ๊ก EKH ประเมินครึ่งปีหลังเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ เห็นสัญญาณตั้งแต่เดือนกรกฎาคมมีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อโรงพยาบาลเอกชัย ขณะที่ศูนย์ภาวะผู้มีบุตรยากพร้อมให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ภายในพฤศจิกายนปีนี้

นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการบริหารและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน)  หรือ EKH  ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนชั้นนำในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 คาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล โดยล่าสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีทิศทางลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อทีมแพทย์และพยาบาล สำหรับเป้าหมายรายได้ปี 2560 วางไว้จะเติบโต 8% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ราว 512 ล้านบาท เชื่อจะเป็นไปตามที่วางไว้ได้

[caption id="attachment_192735" align="aligncenter" width="335"] นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร[/caption]

สำหรับความคืบหน้าธุรกิจศูนย์ภาวะผู้มีบุตรยาก หลังเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประกาศจัดตั้ง บริษัท เอกชัย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (EKH ถือหุ้น 57%) ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตและปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับผู้เข้าใช้บริการแผนกดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้พร้อมเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ทันที เนื่องจากมีลูกค้าแสดงความสนใจและติดต่อเข้ามาแล้ว

นอกจากนี้ การก่อสร้างศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ ขนาด 50 เตียง ก็เดินหน้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/2560 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทันและเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2562 เป็นต้นไป พร้อมรับรู้รายได้ทันที ตอกย้ำการเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านแม่และเด็ก

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2560 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมอยู่ที่ 120.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.87 ล้านบาท หรือ 6.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 113.09 ล้านบาท เนื่องจากโรงพยาบาลมีผู้เข้าใช้บริการผู้ป่วยนอกและรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่มีต้นทุนกิจการโรงพยาบาล (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) จำนวน 81.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.26 โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการตรวจสุขภาพนอกสถานที่  การเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนพยาบาล และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนยาและเวชภัณฑ์ตามลำดับ  ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 34.82 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 35.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.73 ล้านบาท ลดลง 9.45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1.22 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 10.06% ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 11.64%

นอกจากนี้มีรายได้รวมอยู่ที่ 242.84 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.53% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 232.32 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 25.42  ล้านบาท ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 30.62 ล้านบาท

“ผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 116.53 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนครั้งของผู้ป่วยนอกที่เข้ารับบริการ และมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.43 ล้านบาท ส่วนอัตราเข้าใช้บริการ (Utilization Rate) ของจำนวนเตียงผู้ป่วยในเดือนเมษายนและพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ 50% และเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 72% อย่างไรก็ตาม เรามีต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ การเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลประจำเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกิจการที่ขยายตัว และต้นทุนค่ายา ทำให้กำไรสุทธิในช่วงที่ผ่านมาปรับลดลงเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่โรงพยาบาลเอกชัย โดยคำนึงถึงการรักษาพยาบาลพร้อมให้ความสำคัญในเรื่องการบริการอย่างดีที่สุด” นพ.อำนาจ กล่าว