หวดทอท.ดื้อ! อุ้ม 'คิงเพาเวอร์'

10 ส.ค. 2560 | 12:34 น.
ผู้ตรวจการแผ่นดินทำหนังสือจี้ “นายกฯ-รมว.คมนาคม-รมว.คลัง” หวดทอท.ดื้ออุ้ม “คิงเพาเวอร์” ไม่จัดหาพื้นที่ส่งมอบสินค้าปลอดอากรในสนามบินสุวรรณภูมิให้รายอื่น ชี้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ด้านสมาคมการค้าปลอดอากรยื่นนายกฯปฏิบัติตามรธน.

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ส่งหนังสือตอบกลับมายังผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ไม่สามารถจัดหาและกำหนดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ (Public Pick-up Counter) ให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรรายอื่นส่งมอบสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิได้

โดยทอท.แจ้งว่า ได้ดำเนินสัญญาโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์โดยการคัดเลือกผู้ประกอบการใช้วิธีการประมูลเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความเหมาะสมและได้ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งการให้บริการจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้นเป็นสิทธิที่อยู่ภายใต้สัญญาโครงการดังกล่าว หาก ทอท.ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินจะถือเป็นการละเมิดสิทธิของคู่สัญญาทั้งที่สัญญายังไม่สิ้นสุดอายุ จะก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรัฐ

13871827158511_7tx7

สำหรับคู่สัญญากับ ทอท.ที่ได้สิทธิสัมปทานร้านค้าปลอดอากรสนามบินสุวรรณภูมิ คือกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ
อย่างไรก็ตาม พล.อ. วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินยังขอยืนยันคำวินิจฉัยเดิมที่เคยเสนอแนะไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทอท.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ต้องพิจารณาจัดหา และกำหนดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมืองรายอื่นเพื่อใช้ในการส่งมอบสินค้า

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ดำเนินการส่งเรื่องร้องเรียนทั้งหมด รวมทั้งคำแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดินไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้บังคับบัญชารัฐมนตรีเจ้ากระทรวง รวมถึงนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ทอท. และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ เพื่อพิจารณาสั่งการให้ ทอท.จัดหาพื้นที่ในสนามบินนานาชาติเพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นใช้เป็นจุดส่งมอบสินค้าของ ร้านค้าปลอดอากรในเมืองแล้ว”
พล.อ.วิทวัส ยังระบุด้วยว่า เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินมีข้อเสนอแนะต่างๆ ให้กับหน่วยงานของรัฐ ส่วนใหญ่จะปฏิบัติตาม มีเพียง ทอท.เท่านั้นที่ยังดื้อดึง

kpipk_pics_021

การที่ ทอท.อนุญาตให้สิทธิแก่ผู้ประกอบการเพียงรายเดียวเปิดจุดส่งมอบสินค้า มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการเลือกปฏิบัติ ถือเป็นการไม่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จำกัดสิทธิผู้ประกอบการรายอื่นในการทำธุรกิจร้านค้าปลอดอากร และไม่เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล ถือว่า ทอท.ปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 13 (ข) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552

ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 32 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เสนอแนะให้ ทอท.จัดหาและกำหนดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่นเพื่อใช้ส่งมอบสินค้า
สำหรับคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า จุดส่งมอบสินค้าถือเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากร ซึ่ง ทอท.สามารถดำเนินการได้เองบริเวณพื้นที่ที่เป็นของ ทอท. จึงขอให้ ทอท.ศึกษาว่า จะสามารถกำหนดจุดส่งมอบสินค้าเพื่อเป็นบริการสาธารณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมืองรายอื่นสามารถส่งมอบสินค้า ณ จุดที่ ทอท. กำหนดได้หรือไม่ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำหนังสือแจ้งผลให้ ทอท.รับทราบ กระทั่งล่าสุด ทอท.มีหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวระบุถึงสาเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดินได้

ขณะที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา นางรวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้สั่งการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เป็นองค์กรอิสระอันเกิดจากรัฐธรรมนูญและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม และขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560