‘เชียงใหม่ริมดอย’ผงาด รับเหมาทุกงานทั่วไทย ประมูลงานรัฐพันล้าน
เชียงใหม่ริมดอยเสนอประสบการณ์รับเหมาฯกว่า 27 ปี ฝากฝีมือหลายโครงการ มองคอนโดมิเนียม-อาคารสูงเชียงใหม่บูม นักลงทุนจีนช็อปกระจาย จุดแข็งไม่ได้ปันผล หมุนกำไรลงทุน ซื้อที่ดินเยอะ
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2533 ที่ผ่านมาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 27 ปี ได้รับงานที่มีมูลค่าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสูงกว่า 500 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับงานแรก สร้างอาคารทั่วไปของกฟผ.มูลค่า 5-6 ล้านบาท ทำให้มีศักยภาพที่จะเข้าร่วมประมูลงานราชการสูงถึง 1,000 ล้านบาทได้ และรับงานก่อสร้างเกือบทุกประเภท ยกเว้นงานสร้างถนน และสะพานที่ไม่ถนัด ต้องใช้เครื่องจักรและเงินลงทุนจำนวนมาก
[caption id="attachment_192475" align="aligncenter" width="323"]
ธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD[/caption]
“เราเป็นบริษัทรับเหมาในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงแรกทำงานในเชียงใหม่และภาคเหนือ แต่ปัจจุบันรับงานทั่วประเทศ และผ่านงานมาหลากหลายโครงการ ทั้งภาคเอกชนและงานรัฐ เช่น การสร้างคอนโดมิเนียมของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 9 หลังมูลค่า กว่า 400 ล้านบาท ห้องเย็น อาคารสูง 5 ชั้นของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวมถึงระบบสาธารณูปโภค อาทิ สถานีไฟฟ้าย่อย โรงไฟฟ้าพลังนํ้าขนาดเล็ก ระบบบำบัดนํ้าเสีย ล่าสุดอาคารสูง 15 ชั้นของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มูลค่า 350 ล้านบาทเพิ่งเสร็จ และปลายปีนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมูลค่า 497 ล้านบาทจะแล้วเสร็จ ผลงานที่ผ่านมาทำให้เรามีโอกาสเพิ่มรายได้ได้อีกมาก” นายธีรพัฒน์ กล่าว
ส่วนความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เช่น การแข่งขันรุนแรง เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ และความไม่ต่อเนื่องของรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างนั้นนายธีรพัฒน์กล่าวว่า บริษัทมีพันธมิตรหลายรายในการเข้าร่วมประมูลงานและทำงานที่บริษัทไม่เคยทำ รวมกับประสบการณ์ของบริษัท ช่วยให้บริษัทสามารถรับงานกว้างขึ้น การควบคุมประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้สามารถรับงานภาครัฐ ทั่วประเทศ เพราะหัวใจสำคัญในการทำงานคือทำให้ถูกสเปก และราคาตํ่าเท่านั้น
สำหรับงานเอกชน ยังคงเน้นพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เนื่องจากเป็นงานที่ต้องดูแลใกล้ชิด ต้องระวังเรื่องคุณภาพ และโอนสิทธิรับเงินผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ที่ทางบริษัทได้รับการสนับสนุน จากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย
กรรมการผู้จัดการ ยอมรับว่า การแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีอยู่สูงทั้งจากผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพฯ และรับเหมารายใหญ่ในท้องถิ่น แต่การประมูลรับงานใหญ่ เชียงใหม่ริมดอยเป็นบริษัทเล็ก สามารถเสนอราคาได้ตํ่ากว่าผู้รับเหมาจากส่วนกลาง แต่บริษัทต้องเร่งพัฒนาฝีมือ สร้างงานให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อหนีบริษัทรับเหมาขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้มักจะอาศัยความน่าเชื่อถือ ทำงานได้ตามต้องการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ได้พิจารณาเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว ส่วนงานราชการ ต้องวางแผนงานให้ดี ทำให้งานเสร็จเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้มาก
นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมานานหลายปี เพราะธุรกิจรับเหมาจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และบริษัทมีการซื้อที่ดินไว้หลายแปลง ลงบัญชีในราคาต้น ทุนที่ซื้อ มูลค่าทรัพย์สิน ที่ 704 ล้านบาท ณสิ้นเดือนมีนาคม 2560 ยังไม่มีการประเมินราคาที่ดินตามราคาตลาดแต่อย่างใด
“งานที่เราหามาได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายคงที่ ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น แต่ยอมรับว่าบางปีมีรายได้และกำไรลดลง เช่น ในปี 2559 มีรายได้รวม 1,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้ 1,200 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ปี 2557 กำไรสุทธิกว่า 40 ล้านบาทและรายได้รวม 700 ล้านบาทเนื่องจากไม่มีการรับรู้งานเอกชนเข้ามาและงานภาครัฐเพิ่งเริ่มต้น โดยบริษัทลงบัญชีตามความก้าวหน้าของงาน ส่วนปี 2560 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท จากไตรมาส 1ที่มีรายได้จำนวน 326 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้ในปัจจุบันมาจากหน่วยราชการประมาณ 81% และงานภาคเอกชน 18%” นายธีรพัฒน์ กล่าว
สำหรับ บริษัทเชียงใหม่ริมดอยฯ เตรียมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.50 บาทในไตรมาส 3 มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2533 ที่ผ่านมาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 27 ปี ได้รับงานที่มีมูลค่าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสูงกว่า 500 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับงานแรก สร้างอาคารทั่วไปของกฟผ.มูลค่า 5-6 ล้านบาท ทำให้มีศักยภาพที่จะเข้าร่วมประมูลงานราชการสูงถึง 1,000 ล้านบาทได้ และรับงานก่อสร้างเกือบทุกประเภท ยกเว้นงานสร้างถนน และสะพานที่ไม่ถนัด ต้องใช้เครื่องจักรและเงินลงทุนจำนวนมาก
[caption id="attachment_192475" align="aligncenter" width="323"]
“เราเป็นบริษัทรับเหมาในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงแรกทำงานในเชียงใหม่และภาคเหนือ แต่ปัจจุบันรับงานทั่วประเทศ และผ่านงานมาหลากหลายโครงการ ทั้งภาคเอกชนและงานรัฐ เช่น การสร้างคอนโดมิเนียมของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 9 หลังมูลค่า กว่า 400 ล้านบาท ห้องเย็น อาคารสูง 5 ชั้นของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวมถึงระบบสาธารณูปโภค อาทิ สถานีไฟฟ้าย่อย โรงไฟฟ้าพลังนํ้าขนาดเล็ก ระบบบำบัดนํ้าเสีย ล่าสุดอาคารสูง 15 ชั้นของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มูลค่า 350 ล้านบาทเพิ่งเสร็จ และปลายปีนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมูลค่า 497 ล้านบาทจะแล้วเสร็จ ผลงานที่ผ่านมาทำให้เรามีโอกาสเพิ่มรายได้ได้อีกมาก” นายธีรพัฒน์ กล่าว
ส่วนความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เช่น การแข่งขันรุนแรง เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ และความไม่ต่อเนื่องของรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างนั้นนายธีรพัฒน์กล่าวว่า บริษัทมีพันธมิตรหลายรายในการเข้าร่วมประมูลงานและทำงานที่บริษัทไม่เคยทำ รวมกับประสบการณ์ของบริษัท ช่วยให้บริษัทสามารถรับงานกว้างขึ้น การควบคุมประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้สามารถรับงานภาครัฐ ทั่วประเทศ เพราะหัวใจสำคัญในการทำงานคือทำให้ถูกสเปก และราคาตํ่าเท่านั้น
สำหรับงานเอกชน ยังคงเน้นพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เนื่องจากเป็นงานที่ต้องดูแลใกล้ชิด ต้องระวังเรื่องคุณภาพ และโอนสิทธิรับเงินผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ที่ทางบริษัทได้รับการสนับสนุน จากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย
กรรมการผู้จัดการ ยอมรับว่า การแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีอยู่สูงทั้งจากผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพฯ และรับเหมารายใหญ่ในท้องถิ่น แต่การประมูลรับงานใหญ่ เชียงใหม่ริมดอยเป็นบริษัทเล็ก สามารถเสนอราคาได้ตํ่ากว่าผู้รับเหมาจากส่วนกลาง แต่บริษัทต้องเร่งพัฒนาฝีมือ สร้างงานให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อหนีบริษัทรับเหมาขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้มักจะอาศัยความน่าเชื่อถือ ทำงานได้ตามต้องการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ได้พิจารณาเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว ส่วนงานราชการ ต้องวางแผนงานให้ดี ทำให้งานเสร็จเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้มาก
นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมานานหลายปี เพราะธุรกิจรับเหมาจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และบริษัทมีการซื้อที่ดินไว้หลายแปลง ลงบัญชีในราคาต้น ทุนที่ซื้อ มูลค่าทรัพย์สิน ที่ 704 ล้านบาท ณสิ้นเดือนมีนาคม 2560 ยังไม่มีการประเมินราคาที่ดินตามราคาตลาดแต่อย่างใด
“งานที่เราหามาได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายคงที่ ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น แต่ยอมรับว่าบางปีมีรายได้และกำไรลดลง เช่น ในปี 2559 มีรายได้รวม 1,100 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้ 1,200 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ปี 2557 กำไรสุทธิกว่า 40 ล้านบาทและรายได้รวม 700 ล้านบาทเนื่องจากไม่มีการรับรู้งานเอกชนเข้ามาและงานภาครัฐเพิ่งเริ่มต้น โดยบริษัทลงบัญชีตามความก้าวหน้าของงาน ส่วนปี 2560 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท จากไตรมาส 1ที่มีรายได้จำนวน 326 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้ในปัจจุบันมาจากหน่วยราชการประมาณ 81% และงานภาคเอกชน 18%” นายธีรพัฒน์ กล่าว
สำหรับ บริษัทเชียงใหม่ริมดอยฯ เตรียมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.50 บาทในไตรมาส 3 มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560