CU TOYOTA Ha:mo สู่สังคมแบ่งปันรถกันใช้
ในปี 2559 โตโยต้า ได้เปิดระบบการเดินทางแบบ “Ha:mo” หรือเครือข่ายการเดินทางที่สอดประสานกัน โดยเริ่มที่ประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองโตโยต้าซิตี, โตเกียว,โอกายามา และโอกินาวา หลังจากนั้นได้นำมาใช้ที่ เมืองเกรโนเบิล ประเทศฝรั่งเศส และล่าสุดเตรียมจะนำมาใช้ในกรุงเทพมหานครปลายปีนี้
โดย Ha:mo จะช่วยแก้ปัญหาในการเดินทางด้วยการเชื่อมต่อรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้การเดินทางสัญจรเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งโตโยต้าได้นำยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Ultra-compact Electrical Vehicle) มาให้บริการ เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ร่วมกันและเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระโดยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
“ระบบ Ha:mo เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นในเมือง โดยจะช่วยให้ผู้คนเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางได้ง่ายขึ้น และผู้ใช้ Ha:mo สามารถจอด รถทิ้งเอาไว้ได้เลย ซึ่งการเปิดตัวระบบดังกล่าวน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรในประเทศตลาดเกิดใหม่ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยจะให้การยอมรับ Ha:moโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ใอนาคต”
นายเคอิจิ ยามาโมโตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นฯ และ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท คอนเน็คเต็ดฯ กล่าวและว่า
สำหรับการใช้งานที่กรุงเทพมหานคร จะอยู่ภายใต้โครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” ซึ่งโตโยต้าได้จับมือกับจุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัยที่จะร่วมกันทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (EV sharing) โดยจะวิ่งในระยะสั้นๆ ภายในพื้นที่โดยรอบของมหาวิทยาลัย ซึ่งในเริ่มต้นมีรถให้บริการ 10 คัน และกลางปีหน้าจะมีรถทั้งหมด 30 คัน ส่วนสถานีจอดรถจะมีทั้งหมด 12 สถานี พร้อมทั้งติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า 10 สถานี และมีจำนวนช่องจอดรถให้บริการทั้งหมด 33 ช่องจอด
ส่วนการใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของโครงการผ่านระบบออนไลน์ หรือสมัครด้วยตัวเองที่ สำนักงานโครงการที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย โดยค่าบริการจะเริ่มต้นที่ 30 บาทต่อครั้ง สามารถใช้รถได้ 20 นาที
“โครงการนี้ได้วางแผนออกเป็น 2 ระยะ เริ่มช่วงแรกตั้งแต่ธันวาคม 2560- พฤศจิกายน 2562 ถือเป็นช่วงพัฒนา หลังจากนั้นจะทบทวนและสรุปผลพร้อมทั้งเตรียมทำรูปแบบธุรกิจเต็มตัว โดยเราเชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายอย่าง นักศึกษา , อาจารย์ และประชาชนทั่วไป จะได้ใช้ประโยชน์จากระบบดังกล่าวในการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งจาก รถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และรถโดยสารประจำทาง” นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560
โดย Ha:mo จะช่วยแก้ปัญหาในการเดินทางด้วยการเชื่อมต่อรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้การเดินทางสัญจรเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งโตโยต้าได้นำยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (Ultra-compact Electrical Vehicle) มาให้บริการ เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ร่วมกันและเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระโดยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
นายเคอิจิ ยามาโมโตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นฯ และ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท คอนเน็คเต็ดฯ กล่าวและว่า
สำหรับการใช้งานที่กรุงเทพมหานคร จะอยู่ภายใต้โครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” ซึ่งโตโยต้าได้จับมือกับจุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัยที่จะร่วมกันทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (EV sharing) โดยจะวิ่งในระยะสั้นๆ ภายในพื้นที่โดยรอบของมหาวิทยาลัย ซึ่งในเริ่มต้นมีรถให้บริการ 10 คัน และกลางปีหน้าจะมีรถทั้งหมด 30 คัน ส่วนสถานีจอดรถจะมีทั้งหมด 12 สถานี พร้อมทั้งติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า 10 สถานี และมีจำนวนช่องจอดรถให้บริการทั้งหมด 33 ช่องจอด
“โครงการนี้ได้วางแผนออกเป็น 2 ระยะ เริ่มช่วงแรกตั้งแต่ธันวาคม 2560- พฤศจิกายน 2562 ถือเป็นช่วงพัฒนา หลังจากนั้นจะทบทวนและสรุปผลพร้อมทั้งเตรียมทำรูปแบบธุรกิจเต็มตัว โดยเราเชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายอย่าง นักศึกษา , อาจารย์ และประชาชนทั่วไป จะได้ใช้ประโยชน์จากระบบดังกล่าวในการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งจาก รถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และรถโดยสารประจำทาง” นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560