อิฐมวลเบาแก้เกมตลาดชะลอตัว

12 ส.ค. 2560 | 02:30 น.
สมาร์ทคอนกรีต มองครึ่งปีหลังตลาดอิฐมวลเบาในประเทศชะลอตัว ปรับกลยุทธ์เจาะลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบและผู้รับเหมา ออกสินค้าอิฐมวลเบาบล็อกตกแต่ง เสริมทัพธุรกิจ รองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าแบบครบวงจร

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท คอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอิฐมวลเบาช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มชะลอตัว โดยเป็นผลจากโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐมีความล่าช้า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดโครงการใหม่ เน้นกระตุ้นการขายโครงการเดิมในเซ็กเมนต์ต่างๆ ขณะที่สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการใช้อิฐมวลเบาอยู่ในเกณฑ์ที่ตํ่าอย่างต่อเนื่อง

บริษัทปรับกลยุทธ์หันเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมามากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มบล็อกตกแต่ง ที่มีลวดลายรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าแบบครบวงจร และได้มีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อาทิ การออกบูธแนะนำผลิตภัณฑ์ การใช้สื่อออนไลน์สื่อสารกับกลุ่มลูกค้า การแนะนำผลิตภัณฑ์กับกลุ่มผู้ใช้โดยตรง ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี เริ่มมีคำสั่งซื้อจากโครงการในภาคตะวันออก กลุ่มลูกค้าสถาปนิก และผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น

[caption id="attachment_192154" align="aligncenter" width="425"] รังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท คอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART รังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท คอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART[/caption]

“ในช่วงครึ่งปีหลังแม้ตลาดยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ SMART ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักและผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย ส่วนของโครงการภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง แต่ได้มีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติม เพื่อทด แทนความต้องการที่ชะลอตัว”
http://www.thansettakij.com/wp-admin/post-new.php
นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศ AEC โดยบริษัทได้รุกตลาดในประเทศสปป.ลาวมากขึ้น มีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆมากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้งานในสปป.ลาวมีการขยายตัวค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีออร์เดอร์สินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ส่วนตลาดในประเทศกัมพูชา ยังเติบโตดีมีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าไปทำตลาดโดยให้ความรู้ด้านคุณภาพการใช้งานและคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ กับกลุ่มผู้ประกอบการด้านก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกรายได้จากต่างประเทศประมาณ 3 แสนก้อน และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2-3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 72 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย ที่มีรายได้รวม 75 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2560 นั้นบริษัทมีรายได้รวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 152 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการลดลงมาจากการชะลอตัวของโครงการภาครัฐและภาคเอกชน รวมไปถึงการลงทุนกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ เช่นในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่โฟกัสตลาดนี้เข้ามาแข่งขันด้านราคา ทำให้ราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวลดลง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560