นํ้าตาลขอนแก่น ชิงเค้กเอสพีพี ชี้ไม่ได้เปรียบต้นทุน

12 ส.ค. 2560 | 03:30 น.
เคเอสแอลจ่อยื่นเอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม 2 โครงการ 40-45 เมกะวัตต์ ขณะที่ยูเอซียังลังเล หวั่นแข่งประมูลต้นทุนโรงงานนํ้าตาลยาก หากชวดหวังชิงวีเอสพีพีอีกรอบช่วงปลายปีนี้

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการบริษัท นํ้าตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือเคเอสแอล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเตรียมยื่นเสนอขอขายไฟฟ้าตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบผสมผสาน หรือ เอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม (SPP Hybrid Firm) ที่ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเปิดรับข้อเสนอขายไฟฟ้าในวันที่ 2-6 ตุลาคมนี้

[caption id="attachment_28071" align="aligncenter" width="363"] ชลัช ชินธรรมมิตร์ ชลัช ชินธรรมมิตร์[/caption]

โดยบริษัทมีความพร้อมเสนอขายไฟฟ้าเอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเอสพีพี ที่อ.วังสะพุง จ.เลย กำลังการผลิต 20-25 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ โดยบริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรง งานนํ้าตาลแต่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเหลืออยู่ จึงต้องการเสนอขอขายไฟฟ้าเข้าระบบในโครงการดังกล่าว

สำหรับเงินลงทุน คาดว่าจะใช้ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการลงทุนด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าย่อย คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนรายได้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 600-700 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม กรณีที่บางกลุ่มมองว่าการออกนโยบายดังกล่าวเอื้อกลุ่มโรงงานนํ้าตาลนั้น ส่วนตัวมองว่าต้นทุนชีวมวลมีความผันผวน ไม่คงที่ การขายไฟฟ้าตามสัญญา 20 ปีในระดับไม่เกิน 3.66 บาทต่อหน่วย ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากราคาต้นทุนชีวมวลปรับขึ้นลง และในอีก 20 ปีข้างหน้าราคาอาจสูงขึ้นได้

นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือยูเอซี เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นเสนอขอขายไฟฟ้าในโครงการเอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม ซึ่งบริษัทก็เตรียมโครงการโรงไฟฟ้าจากพืชพลังงาน ที่จ.ขอนแก่น กำลังการผลิตกว่า 10 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองโครงการดังกล่าวจะเอื้อให้กลุ่มโรงงานนํ้าตาลที่มีโรงไฟฟ้า แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ ดังนั้นโรงไฟฟ้าจากโรงงานนํ้าตาล ซึ่งใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ ย่อมมีต้นทุนตํ่า หากจะประมูลแข่งขันโรงไฟฟ้าจากพืชพลังงานอาจไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้

TP10-3285-3 อย่างไรก็ตาม หากการยื่นขอขายไฟฟ้าในโครงการเอสพีพีไฮบริดเฟิร์มของบริษัทไม่สามารถแข่งขันได้ บริษัทก็คาดหวังจะยื่นประมูลในโครงการวีเอสพีพีไฮบริด เฟิร์ม ที่คาดว่าทาง กกพ. เตรียม จะเปิดเสนอขอขายไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (เออีดีพี 2015) มีแผนรับซื้อ 500 เมกะวัตต์ภายในปี 2579 ดังนั้นจะเป็น ความถนัดของบริษัทมากกว่า

“บริษัทกำลังดูอยู่ว่าจะยื่นเอสพีพีไฮบริดเฟิร์มหรือไม่ เพราะมองว่าต้นทุนอาจแข่งขันกับกลุ่มโรงงานนํ้าตาลไม่ได้ ดังนั้นอาจรอยื่นวีเอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม แทน เนื่องจากถนัดมากกว่า และเป็นโครงการเล็ก ซึ่งบริษัท เตรียมไว้ 4-5 โครงการ กำลังการผลิตแห่งละ 3 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์” นายชัชพล กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560