GenY กับ Startup

09 ส.ค. 2560 | 23:20 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

TP07-3286-B เมื่อหลายปีก่อน เราได้ยินพวก HR องค์กรใหญ่ๆ ออกมาบ่นว่าการที่พวกเด็ก Gen Y เข้ามาเป็นพนักงานในองค์กรเพิ่มขึ้นนั้นสร้างความท้าทายให้กับบริษัท เพราะเด็ก Gen Y มีวิธี คิด ทัศนคติ และวิธีการทำงาน ที่ไม่เหมือนกับคน Gen X ที่เป็นหัวหน้า งานและเคยเป็นพนักงานส่วนใหญ่ในองค์กรทำให้องค์กรต้องพยายามปรับจูนอะไรหลายๆ อย่างเพื่อทำให้คนต่าง Generation คุยกันรู้เรื่อง จะได้ทำงานร่วมกันได้

แต่ในปัจจุบัน ปัญหาหลักไม่ใช่การที่ Gen Y เข้ามาอยู่ในองค์กรใหญ่ๆ มากไป แต่กลับกลายเป็นว่า HR ต้องประสบกับความยากลำบากในการดึงดูด Gen Y ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับองค์กรแทน (อาจรวมไปถึง Gen Z ที่อยู่ในวัยกำลังเรียนปริญญาตรีหรือกำลังจะเรียนจบด้วย)

++คนGen Y หายไปไหน
สังคมเราเปลี่ยนไป เด็กรุ่นใหม่ Gen Y หลายคนไม่ได้ใฝ่ฝันว่าอยากจะมาอยู่บริษัทใหญ่ที่ “มั่นคง” อีกต่อไป เด็กรุ่นนี้หลายคนฝันอยากจะเริ่มอะไรใหม่ๆ ด้วยตัวเอง อยากเลือกเวลาทำงานได้ อยากนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ เดี๋ยวนี้เรามักเห็นพวก Co-Working Space ต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด หรือไม่ก็เห็นคนวัยหนุ่มสาวนั่งทำงานอยู่ตามร้านกาแฟที่มีอยู่ทั่วไปในกรุงเทพฯ

การมาริเริ่มทำธุรกิจ Startup เองจึงเป็นทางเลือกอาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตคน Gen Y ได้มากกว่าการทำงานในบริษัทใหญ่ๆ (นอกจากนี้ Gen Y ยังมีทางเลือกอื่นๆ เช่น การรับงานอิสระแนว Freelance หรือการมาเป็นลูกจ้างบริษัท Startup ของรุ่นพี่ที่มั่นคงแล้ว) ดังนั้นเราจะเห็นเด็ก Gen Y กระโดดเข้ามาทำธุรกิจแนว Startup กันมากขึ้นเรื่อยๆ

++Startup เปลี่ยนโลก
Startup คือธุรกิจเริ่มต้นใหม่ในยุคดิจิตอล โดยธุรกิจเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาตอบโจทย์ลูกค้าโดยการใช้วิธีการใหม่ๆ (เช่น ใช้ Business Model รูปแบบใหม่, ใช้ Technology ใหม่ๆ หรือ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา) เพื่อใช้แก้ปัญหาชีวิตประจำวันของลูกค้า หรือทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น โดย Startup จะถูกออกแบบมาให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด (ซึ่งจะต่างจาก SMEs ที่จะเป็นการใช้วิธีการธุรกิจแบบเดิมๆ และไม่สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่าง Startup) วงการ Startup เป็นวงการที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว เพราะฉะนั้นคนในวงการต้องปรับตัวเร็ว และ ตื่นขึ้นมากับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆตลอดเวลา

ตัวอย่างของ Startup ของคนไทยที่เป็นที่รู้จักกันดีก็เช่น Ookbee (Application สำหรับอ่าน E-Bookหรือหนังสือพิมพ์ต่างๆ บนโทรศัพท์ มือถือ และ Tablet), Wongnai (Application สำหรับหาข้อมูลร้านอาหาร), Builk (Application สำหรับการช่วยคุมต้นทุน รวมไปถึงระบบ E-Commerce สำหรับวัสดุก่อสร้าง), และ Priceza (Website เปรียบเทียบราคาสินค้าหลายประเภทที่มีขายอยู่ตามร้านใน Internet)

TP07-3286-AA ส่วน Startup ต่างชาติที่เป็นที่รู้จักกันดีก็เช่น Uber(Application สำหรับเรียกรถรับ-ส่งปัจจุบัน Uber ให้บริการอื่นๆ ด้วย เช่น UberEats ที่ให้บริการส่งอาหารตามที่ต่างๆ), Airbnb (Application สำหรับจองห้องพัก), Dropbox (Application ให้บริการรับฝาก File ข้อมูลต่างๆ) และ SEA (ชื่อเดิมคือ Garena-ผู้สร้าง Online Game, Social Platform สำหรับแข่งเกม, รวมไปถึงระบบ E-Payment)

จะเห็นได้ว่า Startup เหล่านี้ (และอีกมากมาย) สร้างนวัตกรรมที่เข้ามามีบทบาททำให้วิถีการดำเนินชีวิตเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นโดย Startup หลายๆ แห่งนี้เป็นผลผลิตของคนGen Y ที่เพิ่งสร้าง Startup เหล่านี้ขึ้นมาและทำให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ภายในไม่กี่ปีมานี้ ตัวอย่างความสำเร็จเหล่านี้ยิ่งเป็นสิ่งดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้อยากก้าวเข้ามาในวงการนี้มากขึ้น

++องค์กรใหญ่ควรปรับตัวอย่างไร
เนื่องด้วยภาคธุรกิจจะต้องปรับตัวมาใช้ Technology ในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจ้างคนรุ่นใหม่ (Gen Y รวมไปถึงGen Z) ที่เป็น Digital Native (เกิดและเติบโตมาในยุค Digital ทำให้ใช้ Technology ต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว) มาช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า การจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาอยู่ในองค์กรและอยู่ได้นานๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ องค์กรใหญ่จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ Work Environment ถูกใจเด็กรุ่นใหม่ เช่น มีชั่วโมงทำงานที่ยืดหยุ่นได้ มีห้องประชุมที่เหมือนห้องนั่งเล่นบางแห่งมีห้องให้เล่นเกมได้ มีเตียงให้นอนพัก มีโต๊ะทำงานเหมือนโต๊ะในร้านกาแฟ (ย้ายที่นั่งได้ ไปนั่งโซนไหนก็ได้) มีกาแฟมีขนมให้ทานตลอดเวลา นอกจากนี้รูปแบบงานก็ไม่ควรปล่อยให้ซํ้าซากน่าเบื่อ รวมถึงควรปล่อยให้คนรุ่นใหม่มีอิสระในการคิดและการนำเสนอผลงาน

อย่างไรก็ดีหากองค์กรมีขนาดใหญ่มากและไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรต่อมิอะไรได้ง่าย ก็อาจเลือกที่จะ Spin off บริษัทลูกออกมา แล้วให้บริษัทลูกมีการบริหารจัดการคล้าย Startup โดยจ้างคนรุ่นใหม่ทำงานแบบ Flexible และรวดเร็ว ทำเรื่องใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจเดิมแต่แยกการ บริหารจัดการออกมาจากองค์กรเดิม

ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงเร็วแบบก้าวกระโดด องค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ คนทำงานไม่ว่าเป็นคน Gen ไหน ควรจะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะปรับตัวให้ไว โดยหัดมี Mindset แบบคน Startup คือปรับตัวเร็ว ล้มเร็วลุกเร็ว และมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะนี่คือคุณสมบัติขององค์กรและคนทำงานที่จะประสบความสำเร็จได้ในโลกอนาคต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560