SPF พ่นพิษใส่กองอสังหาฯสมุย เปลี่ยนเกณฑ์ภาษีโรงเรือน-ที่ดินกระทบกำไร

12 ส.ค. 2560 | 03:31 น.
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สมุยบุรี ยื่นอุทธรณ์ “เทศบาลเกาะสมุย”เปลี่ยนเกณฑ์ประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินจากคำนวณตามจำนวนห้องพักที่ให้บริการจริง มาประเมินอัตราค่าเช่าทรัพย์สิน โอดต้องจ่ายภาษีย้อนหลัง 5 ปี เพิ่มกว่า 10 เท่า เหตุจากกองสนามบินสมุยแพ้คดี

นายสุทธิพันธ์ กรีมหา ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลฯ ในฐานะประธานในการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สมุยบุรี (SBPF) ครั้งที่ 1/2560 แจ้งผู้ถือหน่วยว่า เมื่อวันที่24เมษายน 2560 สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุยได้มีหนังสือแจ้งให้กองทุนรวมชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเพิ่มเติมย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2560 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินภาษีจากเดิมคำนวณตามจำนวนห้องพักที่มีการนำออกให้บริการจริง เปลี่ยนเป็นการประเมินจากอัตราค่าเช่าทรัพย์สินระหว่างกองทุนรวมกับผู้เช่าเดิม ส่งผลให้มีภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นกว่า10เท่า จาก 3,049,510 บาท เป็น28,598,122 บาท

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการเช่าตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม2553 เป็นต้นมา กองทุนรวมได้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินมาตลอด โดยสัญญาเช่าทรัพย์สินฉบับเดิมกำหนดให้ผู้เช่าทรัพย์สินของกองทุนรวมมีหน้าที่ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงภาษีป้าย ภาษีอื่นๆ ที่อาจเรียกเก็บโดยหน่วยงานราชการ ผู้เช่าเดิมจึงเป็นผู้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับทรัพย์สินของกองทุนรวมตลอดระยะเวลาที่สัญญาเช่าฉบับเดิมยังมีผล ซึ่งในการชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินเป็นการชำระตามจำนวนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประเมินและเรียกเก็บจากกองทุนรวมในอัตราภาษีอยู่ที่ 12.5%

app-MP33-3051-X อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 กองทุนรวมได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินในหลายประเด็น รวมถึงการไม่ได้รับชำระค่าเช่าทรัพย์สินเต็มจำนวนตามสัญญาเช่าและการบอกเลิกสัญญาเช่าทรัพย์สินตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2558ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินภาษีย้อนหลังได้เป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี ส่งผลให้กองทุนรวมมีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินเพิ่ม

นายสุทธิพันธ์ กล่าวว่า สาเหตุที่รัฐประเมินใหม่ เนื่องมาจากคดีของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้พิจารณาตามสัญญาเช่าที่กองทุนรวมให้เช่า จึงทำให้สำนักงานเทศบาลเกาะสมุยกลับมาประเมินภาษีที่เคยเรียกเก็บซึ่งในการเรียกเก็บก็จะพิจารณาว่าใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าของคือกองทุนรวม มีรายได้จากทรัพย์สินเท่าไรจะเป็นไปตามสัญญาเช่า ดังนั้น การเรียกเก็บภาษีจึงเป็นไปตามที่รัฐประเมินใหม่ โดยทุกกองทุนรวมที่เกาะสมุยได้รับการประเมินภาษีในลักษณะเดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่1ตุลาคม 2559 ศาลภาษีอากร กรุงเทพมหานคร ได้พิพากษาให้เทศบาลเมืองเกาะสมุยชนะคดีบริษัทการบินกรุงเทพฯเจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและสนามบินสมุย ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องเทศบาลเมืองเกาะสมุย จังหวัสุราษฎร์ธานี เป็นจำเลย พร้อมเรียกเงินคืนจากการถูกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินเมื่อปี 2554 เป็นเงินกว่า 38 ล้านบาท ถือเป็นคดีแรกของประเทศกรณีนำทรัพย์สินที่เป็นที่ดินและอาคารให้กับกองทุนรวมเช่าไปลงทุนจะต้องมีการจ่ายภาษีให้กับท้องที่ ตามพ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน จึงเป็นบรรทัดฐานให้กับกองทุนอื่นๆ

ปัจจุบันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในสินทรัพย์บนเกาะสมุยนอกเหนือจากกองทุน SBPFและ SPF ยังมีกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือฯ (CTARAF) ลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคาร ระยะเวลาตามสัญญาเช่า 30 ปี ในโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560