"เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้" ในหลวงร.10' พระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาล

08 ส.ค. 2560 | 10:42 น.
---8 ส.ค.60---- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมาได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการส่วนพระองค์ เป็นการถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา ซึ่งตนเองได้ถวายรายงานในทุก ๆ เรื่อง ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ ปัญหาอุทกภัย และการช่วยเหลือ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสรับสั่งประกอบด้วยหลายประการ

1.ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งภายเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงรับสั่งให้ช่วยเหลือตามมาตรการต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็ว และทั่วถึง ลดภาระการซ้ำซ้อน สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ก็จะทรงพระราชทานความช่วยเหลือมาให้อย่างที่ทรงทำในปัจจุบัน นอกจากนี้ทรงรับสั่งให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นแต่ละพื้นที่ไป ถ้ายังไม่สามารถดำเนินการภาพรวมใหญ่ ๆ ทั้งหมดได้ ก็ให้ทยอยดำเนินการไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้กราบบังคมทูลอธิบายถวายให้ทรงทราบแล้วว่ารัฐบาลกำลังมีโครงการต่าง ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ที่ทรงริเริ่มไว้มาหลาย 10 ปี ซึ่งบางโครงการก็ยังไม่สำเร็จ หรือยังไม่ครบ ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทำ แต่อยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในที่ดิน หรือพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งในวันที่ 9 ส.ค. ตนจะหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในเรื่องดังกล่าวว่า จะต้องทำอะไรให้เกิดขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ซึ่งอาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดินกันหรือไม่ หรือจำเป็นต้องเช่าพื้นที่เอกชนเพื่อเก็บกักน้ำให้ได้อย่างแท้จริง วันนี้ถ้าเราปล่อยให้น้ำท่วมถึงเวลาก็ไปเยียวยาก็ต้องไปดูในภาพรวมว่าในพื้นที่ดังกล่าวประชาชนมีรายได้อย่างไร ปลูกพืชปีละกี่ครั้ง และปริมาณน้ำท่วมเท่าไร ก็จะต้องไปหารือว่าจะใช้เป็นพื้นที่เก็บน้ำเลยได้หรือไม่

000000(3)

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ 2.ทรงมีรับสั่งคือ ขอให้ทำให้ประเทศชาติ และประชาชนมีความสุข ซึ่งทรงย้ำเสมอทั้งเรื่องการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย สร้างอุดมการณ์ ทรงรับสั่งว่าให้ทำทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง 3.ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลในส่วนที่ดีงาม มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็นและชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้ 4.ทรงรับสั่งถึงภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ภัยคุกคามในรูปแบบเก่า อธิปไตย ซึ่งวันนี้ก็น้อยละ มีเฉพาะเรื่องของการรักษาทรัพยากรทั้งผืนแผ่นดิน และผืนน้ำ ที่เป็นอาณาเขตของประเทศไทย จำเป็นต้องมีกำลังไว้ดูแลรักษา และทรงเป็นห่วงในเรื่องของภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้ให้เป็นสากล ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดในประเทศอื่นก็จะมามีอิทธิพลต่อประเทศไทย อยู่ที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน

5.ทรงรับสั่งให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเรามีการปฏิรูปกันอยู่มากพอสมควร เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ให้คนไทยมีความรู้อย่างจริงจัง ทำงานได้สามารถที่จะมีอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง และมีหลักคิดที่ถูกต้องในทุก ๆ เรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง 6.ทรงรับสั่งให้ช่วยกันส่งเสริมงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุมครม.วันเดียวกันนี้ โดยนำแนวกระแสรับสั่งให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครขึ้นมาในการดูแลพื้นที่ ดูแลความมั่นคง และในกิจการต่าง ๆ ลักษณะเป็นจิตอาสา หรือทำกิจการสาธารณะ เพราะบางอย่างถ้ารอข้าราชการทำฝ่ายเดียวไม่ทัน เพราะต้องผ่านกลไก และขั้นตอนต่าง ๆ แต่ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือโดยจิตอาสาก็จะเกิดขึ้นได้เร็ว ภาระต่าง ๆ การใช้จ่ายงบประมาณก็จะลดลง จะได้นำงบประมาณไปทำอย่างอื่น

scan0014

7.ทรงรับสั่งในเรื่องการดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

8.ข้าราชการทุกหมู่เหล่า หรือส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายใดก็ตาม ขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชน ให้เกิดความเคารพศรัทธา และเชื่อมั่นในการทำงาน จะได้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย

9.เรื่องสำคัญที่สุดคือทรงเสียใจในการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช และคนไทยทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งว่าขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ทรงทำไว้อย่างมากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ซึ่งพระองค์ท่านทรงพระราชทานแนวทางไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่เองก็ทรงได้รับการสั่งสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องแก้ไข เพราะท่านทรงตรัสว่า "เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้" ขณะเดียวกันก็ทรงให้นึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ในรัชกาลที่ 9 ด้วย ซึ่งพระองค์ทรงพระราชทานสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมายให้กับประเทศไทย ขอให้นำแนวทางพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ไปขับเคลื่อน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะสนับสนุนและส่งเสริม สถาบันก็จะช่วยเหลือรัฐบาลในการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนไปพร้อม ๆ กัน มีอะไรขอให้ทูลฯ ให้ทราบ

tnews_1484033466_8060

"สิ่งเหล่านี้ ผมได้นำความต่าง ๆ มาให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบ เพื่อสนองแนวพระราโชบาย สนองพระกระแสรับสั่ง ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโชคดีที่ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานต่อพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ต่อไป ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันรักษาต่อไป และขอให้ใช้การสูญเสียในครั้งนี้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้มีการเตรียมการ มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า อยากให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดมีส่วนร่วมในการวางดอกไม้จันทน์แต่ทั้งหมดคงมาที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ขอให้จัดสถานที่ในการวางดอกไม้จันทน์ในทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสวางด้วยมือของตัวเองอย่างทั่วถึง ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุมครม. วันนี้ไปแล้ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อพวกเราทุกคน