แตกไลน์ธุรกิจสู่งานคอนซัลต์สร้างความแกร่งธุรกิจ‘เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์’
สาวเก่ง “หลุ่ย แซ่กั๊ว” หรือ “จีจี้” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัทสื่อจีนในไทยที่กำลังสร้างชื่อเสียงโด่งดังทั้งในไทยและจีน กับงานล่าสุดที่เพิ่งจัดไป คือ Thailand Headlines Person of The Year Awards งานอีเวนต์ที่รวมบุคคลสำคัญซึ่งมีอิทธิพลต่อชาวจีนขึ้นมารับรางวัลเชิดชูเกียรติ
“บุคคลเหล่านี้ถือเป็นพรีเซนเตอร์ประเทศไทยสู่สายตาชาวจีน ผลงานของบุคคลเหล่านี้ ช่วยให้ทางจีนทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้าใจประเทศไทยมากขึ้น และได้เห็นถึงความเจริญ ความดีงามของประเทศไทย เรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือการลงทุน หรือการท่องเที่ยว หรือด้านวัฒนธรรม คนจีนจะรู้จักสิ่งเหล่านี้จาก Thailand Headlines Person of The Year Awards”
Thailand Headlines คือ สำนักข่าวออนไลน์ที่ผู้บริหารสาวคนนี้สร้างขึ้น เป็นช่องทางการสื่อสารด้านข่าวสารของไทยสู่ชาวจีน นอกเหนือจากสื่อนิตยสาร @ ManGu ฟรีก๊อบปี้ภาษาจีนในไทย ที่เธอบุกเบิกมาตั้งแต่เริ่ม รวมถึง Thailand information Guide ที่เป็นสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ และเธอยังเคยทำหน้าที่บริหารโซเชียลมีเดียสัญชาติจีน Weibo Thailand สื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ SINA ของประเทศจีนในไทยมาแล้ว แม้ปัจจุบันจะไม่ได้บริหาร แต่สื่อทั้ง 3 ของเธอ ทั้ง Thailand Headlines, Thailand information Guide และ @ ManGu ก็มีออฟฟิ เชียลแอกเคาต์อยู่บน Weibo ซึ่งถือเป็นช่องทางสื่อสารกับชาวจีนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
Thailand Headlines ถือเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อชาวจีนค่อนข้างมาก จากยอดสมาชิกเกือบ 3 แสนคน ยอดวิวสะสม 2,500 กว่าล้านวิว เฉลี่ยวันละ 1 ล้านวิว ทำให้ Thailand Headlines กลายเป็นแบรนด์ข่าวของไทยสำหรับคนจีน คนที่สนใจเรื่องราวคนไทยก็จะเข้ามาที่นี่ และยังเป็นแหล่งข้อมูลของสื่อจีน ที่ต้องการเข้ามาเช็กข่าวจากเมืองไทยด้วย
ในมุมมองของคนจีนที่อยู่ในไทยมาตั้งแต่ต้น กับบทบาทของความเป็นสื่อ ที่เหมือนตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ไทยจีน “จีจี้” บอกว่า หน้าที่ของเธอในบทบาทสื่อ คือ การนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน หากคนจีนมีปัญหา หรือมีข่าวอะไรที่จะทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน เสียไป เธอคือคนหนึ่งที่เข้ามาทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และไกล่เกลี่ยให้ทุกอย่างดีขึ้น
“ส่วนตัว ถ้ามีข่าวฉาวของนักท่องเที่ยวจีน เราจะพยายามออกมาพูด ทำความเข้าใจ ให้เห็นถึงข้อเท็จจริง เราพยายามที่จะพูดทั้งไทย และจีน ว่าวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติเป็นอย่างไร เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ข่าวฉาวทั้งหมด เกิดขึ้นเพราะความไม่เข้าใจ และเข้าใจผิด เราน่าจะเป็นสื่อที่ทำให้ความขัดแย้งมันเบาลง เราน่าจะเป็นสื่อเดียวที่ทำให้ประเด็นแรงๆ ให้มันเบาลง”
“จีจี้” บอกว่า หลักการในการทำสื่อของเธอคือ ถูกต้อง ทันเหตุการณ์ แม่นยำ ไม่เบี่ยงเบน ...สื่อที่ชอบเล่นข่าวลบ นั่นคือ การเบี่ยงเบน อย่างสื่อที่นำเสนอ เช่น ภาพคนถูกยิง ภาพนํ้าท่วมมิด เราเป็นสื่อในเมืองไทย เราไม่อยากเห็นเมืองไทยแย่ และเราไม่อยากเห็นคนไทยคนจีนไม่ถูกกัน อย่างช่วงที่มีเรื่องขัดแย้งทางการเมือง เรานำเสนอข่าว และทำโครงการ เมืองไทยยังเที่ยวได้ และเมืองไทย ยังสวยอยู่ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่วนตรงไหนเที่ยวไม่ได้ ก็จะแจ้งไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่หวาดระแวง เราเป็นสื่อที่อยู่ในไทย เราไม่อยากขยายจุดที่ไม่ดี เพราะถ้าจะขยายเรื่องพวกนั้นไปแบบนั้นชาวต่างชาติกว่าเขาจะกลับมาเชื่อมั่น และกลับมาเที่ยวเมืองไทยได้อีก มันใช้เวลานาน
แม้ธุรกิจสื่อที่ “จีจี้” บริหาร จะเป็นสื่อที่ได้รับความนิยม แต่ด้วยสภาพตลาดก็ต้องยอมรับว่าเม็ดเงินโฆษณา หรือยอดรายได้ของสื่อเริ่มคงที่ หรือหลายๆ ที่ก็ลดลง เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้บริหาร เธอจึงเริ่มลงทุนกับธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านเมดิคัลเซอร์วิส ทำหน้าที่เป็นคนกลางติดต่อสถานเสริมความงามที่ลูกค้าสนใจให้เข้ามาทำศัลยกรรม รวมทั้งรักษาสุขภาพ
“ความเสี่ยงของสื่อ สื่อเลี้ยงทั้งองค์กรไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีธุรกิจอื่นเข้ามาเสริม แต่ถ้าธุรกิจอื่นไม่มีสื่อเข้ามาช่วย ก็อาจจะไม่เกิดได้เร็วขนาดนี้ จากอสังหาฯ ที่เราทำมาไม่ถึง 1 ปี เรากลายเป็นที่ยอมรับ เป็นที่รู้จัก และได้รับความเชื่อถือ เราขยายได้เร็วมาก และอนาคตรายได้ตรงนี้น่าจะนำหน้าสื่อ”
“จีจี้” ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจสื่อของเธอต่อ ด้วยการเพิ่มแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าถึงผู้อ่าน ส่วนธุรกิจที่ปรึกษา เธอจะเพิ่มเซลส์เอเยนต์ เพิ่มบริการ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเข้าไปให้คำปรึกษากับเจ้าของโครงการตั้งแต่ก่อนสร้าง ถึงความต้องการของลูกค้าชาวจีน โดยเธอลิมิตไว้ว่า จะพยายามรับงานโครงการในเวลาเดียวกันไม่เกิน 6 โครงการ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
ตอนนี้เจียระไน เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ มีรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ ประมาณ 30-40% และรายได้จะขยายขึ้นเรื่อยๆ เพราะรายได้ของสื่อค่อนข้างคงที่ รายได้ที่เกิดจากธุรกิจใหม่ๆ จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจให้กับเจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้เป็นอย่างดี เพราะโอกาสในการขยายธุรกิจมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะตอนนี้คนจีนสนใจเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมที่พักในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าของโครงการในเมืองไทย ก็สนใจตลาดประเทศจีนมากขึ้น แต่อย่างไรเสีย “จีจี้” ก็ยังยืนยันว่า เธอยังทำสื่อเป็นหลัก ด้วยความชอบที่มีมาตั้งแต่ต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560
“บุคคลเหล่านี้ถือเป็นพรีเซนเตอร์ประเทศไทยสู่สายตาชาวจีน ผลงานของบุคคลเหล่านี้ ช่วยให้ทางจีนทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้าใจประเทศไทยมากขึ้น และได้เห็นถึงความเจริญ ความดีงามของประเทศไทย เรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือการลงทุน หรือการท่องเที่ยว หรือด้านวัฒนธรรม คนจีนจะรู้จักสิ่งเหล่านี้จาก Thailand Headlines Person of The Year Awards”
Thailand Headlines คือ สำนักข่าวออนไลน์ที่ผู้บริหารสาวคนนี้สร้างขึ้น เป็นช่องทางการสื่อสารด้านข่าวสารของไทยสู่ชาวจีน นอกเหนือจากสื่อนิตยสาร @ ManGu ฟรีก๊อบปี้ภาษาจีนในไทย ที่เธอบุกเบิกมาตั้งแต่เริ่ม รวมถึง Thailand information Guide ที่เป็นสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ และเธอยังเคยทำหน้าที่บริหารโซเชียลมีเดียสัญชาติจีน Weibo Thailand สื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ SINA ของประเทศจีนในไทยมาแล้ว แม้ปัจจุบันจะไม่ได้บริหาร แต่สื่อทั้ง 3 ของเธอ ทั้ง Thailand Headlines, Thailand information Guide และ @ ManGu ก็มีออฟฟิ เชียลแอกเคาต์อยู่บน Weibo ซึ่งถือเป็นช่องทางสื่อสารกับชาวจีนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
ในมุมมองของคนจีนที่อยู่ในไทยมาตั้งแต่ต้น กับบทบาทของความเป็นสื่อ ที่เหมือนตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ไทยจีน “จีจี้” บอกว่า หน้าที่ของเธอในบทบาทสื่อ คือ การนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน หากคนจีนมีปัญหา หรือมีข่าวอะไรที่จะทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน เสียไป เธอคือคนหนึ่งที่เข้ามาทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และไกล่เกลี่ยให้ทุกอย่างดีขึ้น
“ส่วนตัว ถ้ามีข่าวฉาวของนักท่องเที่ยวจีน เราจะพยายามออกมาพูด ทำความเข้าใจ ให้เห็นถึงข้อเท็จจริง เราพยายามที่จะพูดทั้งไทย และจีน ว่าวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติเป็นอย่างไร เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ข่าวฉาวทั้งหมด เกิดขึ้นเพราะความไม่เข้าใจ และเข้าใจผิด เราน่าจะเป็นสื่อที่ทำให้ความขัดแย้งมันเบาลง เราน่าจะเป็นสื่อเดียวที่ทำให้ประเด็นแรงๆ ให้มันเบาลง”
“จีจี้” บอกว่า หลักการในการทำสื่อของเธอคือ ถูกต้อง ทันเหตุการณ์ แม่นยำ ไม่เบี่ยงเบน ...สื่อที่ชอบเล่นข่าวลบ นั่นคือ การเบี่ยงเบน อย่างสื่อที่นำเสนอ เช่น ภาพคนถูกยิง ภาพนํ้าท่วมมิด เราเป็นสื่อในเมืองไทย เราไม่อยากเห็นเมืองไทยแย่ และเราไม่อยากเห็นคนไทยคนจีนไม่ถูกกัน อย่างช่วงที่มีเรื่องขัดแย้งทางการเมือง เรานำเสนอข่าว และทำโครงการ เมืองไทยยังเที่ยวได้ และเมืองไทย ยังสวยอยู่ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่วนตรงไหนเที่ยวไม่ได้ ก็จะแจ้งไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่หวาดระแวง เราเป็นสื่อที่อยู่ในไทย เราไม่อยากขยายจุดที่ไม่ดี เพราะถ้าจะขยายเรื่องพวกนั้นไปแบบนั้นชาวต่างชาติกว่าเขาจะกลับมาเชื่อมั่น และกลับมาเที่ยวเมืองไทยได้อีก มันใช้เวลานาน
แม้ธุรกิจสื่อที่ “จีจี้” บริหาร จะเป็นสื่อที่ได้รับความนิยม แต่ด้วยสภาพตลาดก็ต้องยอมรับว่าเม็ดเงินโฆษณา หรือยอดรายได้ของสื่อเริ่มคงที่ หรือหลายๆ ที่ก็ลดลง เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้บริหาร เธอจึงเริ่มลงทุนกับธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านเมดิคัลเซอร์วิส ทำหน้าที่เป็นคนกลางติดต่อสถานเสริมความงามที่ลูกค้าสนใจให้เข้ามาทำศัลยกรรม รวมทั้งรักษาสุขภาพ
“ความเสี่ยงของสื่อ สื่อเลี้ยงทั้งองค์กรไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีธุรกิจอื่นเข้ามาเสริม แต่ถ้าธุรกิจอื่นไม่มีสื่อเข้ามาช่วย ก็อาจจะไม่เกิดได้เร็วขนาดนี้ จากอสังหาฯ ที่เราทำมาไม่ถึง 1 ปี เรากลายเป็นที่ยอมรับ เป็นที่รู้จัก และได้รับความเชื่อถือ เราขยายได้เร็วมาก และอนาคตรายได้ตรงนี้น่าจะนำหน้าสื่อ”
ตอนนี้เจียระไน เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ มีรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ ประมาณ 30-40% และรายได้จะขยายขึ้นเรื่อยๆ เพราะรายได้ของสื่อค่อนข้างคงที่ รายได้ที่เกิดจากธุรกิจใหม่ๆ จะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจให้กับเจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้เป็นอย่างดี เพราะโอกาสในการขยายธุรกิจมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะตอนนี้คนจีนสนใจเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมที่พักในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าของโครงการในเมืองไทย ก็สนใจตลาดประเทศจีนมากขึ้น แต่อย่างไรเสีย “จีจี้” ก็ยังยืนยันว่า เธอยังทำสื่อเป็นหลัก ด้วยความชอบที่มีมาตั้งแต่ต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560