มณีนุช เสมรสุต ‘มือปั้นดาว’

12 สิงหาคม 2560
“ครูอ้วน” ชื่อนี้เชื่อว่าใครๆ ก็รู้จัก ทั้งในฐานะเจ้าของรางวัลนักร้องยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย นักแสดง คอมเมน์เตเตอร์รายการดัง คุณครูสอนร้องเพลง และอีกบทบาทในฐานะ ผู้อำนวยการสอนสถาบันสตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี (STAR MAKER VOICE ACADEMY) สถาบันสอนศิลปะการร้องใช้เสียงเพื่อการร้องและพูด

การยืนหยัดอยู่บนโลกบันเทิงใบนี้มากว่า 35 ปี ทำให้ “ครูอ้วน - มณีนุช เสมรสุต” สั่งสมประสบการณ์ และเรียนรู้วิถีการเป็น อยู่ และดำรงไว้ซึ่งคำว่า “ศิลปิน” ได้อย่างลงตัว และพร้อมจะถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์

“13 ปีที่เปิดทำการเรียนการสอนร้องเพลงผ่านสตาร์ เมคเกอร์ วันนี้ครูอ้วนมีลูกศิษย์กว่า 2 หมื่นคน มีตั้งแต่อายุ 3 ขวบ 85 ปี ซึ่งแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนมาเรียนที่นี่คือ ต้องการร้องเพลงอย่างมีความสุข”

วันนี้ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องได้ ไม่ใช่ว่าต้องมีพรสวรรค์อย่างเดียว “ครูอ้วน” บอกว่า จากประสบการณ์มาค่อนชีวิต คำว่า “พรสวรรค์” คือ ความพิเศษที่เกิดมาติดตัว เช่น การมีหูที่ดี สามารถฟังและแยกแยะได้พิเศษ ได้ยินเสียงสูง กลาง ต่ำที่บางคนไม่ได้ยิน บางคนมีพรสวรรค์ในการสร้างความสุข และมีสรีระที่ดี พร้อมที่จะเป็นศิลปิน นักร้อง แต่น้อยคนที่จะพรสวรรค์ในทุกๆ ด้าน บางคนมีอย่างใด อย่างหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะสรรหาสิ่งที่ขาดมาเติมเต็ม หรือที่เรียกว่า “พรแสวง”

MP29-3286-1 “ถึงจะมีพรสวรรค์ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ พรสวรรค์นั้นก็ฟ่อได้ ดังนั้นสิ่งจำเป็นคือ พรแสวง หรือการฝึกฝน ที่จะทำให้มีการพัฒนา และรักษาพรสวรรค์นั้นไว้”

ทุกวันนี้ครูอ้วนจะเข้าประจำที่สตาร์ เมคเกอร์ ทั้ง 10 สาขา ทั้งเพื่อดูแลความเรียบร้อย และสอน การทำกิจกรรม master class, monthly activity, singing contest สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เรียน รวมทั้งการมีหลักสูตร MTS (Multimedia Intelligence Teaching System) ซึ่งครูอ้วนเป็นผู้ออกแบบและพัฒนาขึ้นเองจากประสบการณ์ที่มี ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีมัลติมีเดีย ทำให้ครูผู้สอนอื่นๆ สามารถนำไปใช้ เสริมศักยภาพและพัฒนาผู้เรียน ให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด

วันนี้ “สตาร์ เมคเกอร์” ไม่ได้มีเฉพาะหลักสูตรการใช้เสียง การร้องเพลงเท่านั้น แต่ยังมีหลักสูตร Smart Makeover การพูดและบุคลิกสำหรับนักบริหาร และหลักสูตร Born to be a Star การพัฒนาและค้นหาความเป็นศิลปิน แม้จะต้องทำงาน 7 วันเต็ม แต่ครูอ้วนสามารถจัดสรรเวลาได้อย่างลงตัว

“สิ่งที่ทำทุกวัน ไม่ได้เรียกว่า การทำงาน แต่เป็นการทำความสุข สิ่งสำคัญคือ ต้องดูแลตัวเอง นาฬิกาชีวิตของครูอ้วน จึงต้องนอน 4 ทุ่ม และต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง ทุกวันนี้หากมีอัดรายการเช้า ครูอ้วนจะต้องจองโรงแรมใกล้เคียงเพื่อพักผ่อน ให้เป็นเวลา และสามารถตื่นเช้ามาทำงานได้ตรงเวลานัดหมาย” สิ่งจำเป็นในชีวิตคือ “กิน อยู่ นอน”

การได้ทำในหลายๆ บทบาท ไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิต ตรงข้าม ทุกอย่างล้วนสร้างประสบการณ์ และการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ครูอ้วนบอกว่า การได้เล่นละคร ทำให้ได้เรียนรู้ระบบการทำงาน การแต่งกาย การเขียนบท และวิธีการสื่อสาร ซึ่งแต่ละกองถ่ายทำ เช่น โพลีพลัส กันตนา ฯลฯ ล้วนแตกต่างกัน การขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ได้เรียนรู้การทำงาน อุปกรณ์ที่แตกต่างจากในอดีตมาก ละครเวที เป็นอีกศาสตร์ที่ทำให้ได้ฝึกฝนตนเองตลอดเวลา เพราะเมื่อก้าวมาอยู่ในจุดนี้ (เป็นอาจารย์) เหมือนสูงสุด ไม่มีใครมาแตะต้องเรา และเราก็เลือกที่จะเป็นผู้ให้ การได้ฝึกฝน และเรียนรู้จากผู้อื่นจึงเป็นสิ่งที่จะเพิ่มและพัฒนาทักษะของตนเองไปพร้อมกัน

และอีกบทบาท ที่วันนี้จะเห็นครูอ้วนอยู่ในหน้าจอรายการดังๆ คือการเป็นคอมเมนเตเตอร์ ซึ่งครูอ้วน ชื่นชอบเพราะทำให้ได้คิดสร้างสรรค์ ไปพร้อมกับคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งล้วนมีพลัง และนำมาปรับปรุงในหลักสูตร เพื่อให้ทันกระแส

ความสำเร็จของลูกศิษย์ครูอ้วน ซึ่งมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทาทา ยัง , ปนัดดา เรืองวุฒิ, แพรว - คณิตกุล แกงส้ม The Star 8, กั้ง มุก บิว The Star 10 ฯลฯ ไม่ได้ทำให้ครูอ้วนหยุดที่จะเรียนรู้ และความสำเร็จต่างๆ เหล่านี้ ครูอ้วนบอกว่า ล้วนมาจากความพยายาม ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้กับลูกศิษย์ และการมีทีมงานที่ดี สมบูรณ์แบบ และรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560