มาสด้าเตรียมแนะนำเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-X ปี 62

08 ส.ค. 2560 | 09:02 น.
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ออกประกาศในวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ว่า มาสด้าได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ในระยะยาวภายใต้ชื่อโครงการ "SUSTAINABLE ZOOM-ZOOM 2030” โดยเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีก 13 ปีข้างหน้า หรือภายในปี พ.ศ. 2573 ในฐานะของการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่นี้ และเพื่อให้สามารถบรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว มาสด้าเตรียมเปิดตัวแนะนำเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ที่เรียกว่า SKYACTIV-X ในปี พ.ศ. 2562 โดยเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-X จะกลายเป็นเครื่องยนต์เบนซินในเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่ใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ

P1J13644l

ภายใต้แนวคิดและวิสัยทัศน์ ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน “Sustainable Zoom-Zoom” จากเดิมที่มาสด้าได้เคยประกาศไว้เมื่อปี พ.ศ. 2550  มาสด้าพยายามที่จะพัฒนารถยนต์ที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน ความสนุกสนานในการขับขี่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยระดับโลก ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นมาสด้าได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ที่มีมุมมองระยะยาว ด้วยการกำหนดวิธีการเพื่อที่มาสด้าจะได้ส่งมอบความสุข ความสนุกสนานในการขับขี่ ซึ่งเป็นพื้นฐานของรถยนต์เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้าทั่วโลกและสิ่งที่ผู้คนในสังคมต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้

P1J13645l

 

แผนพัฒนาสู่ความยั่งยืน “Sustainable Zoom-Zoom 2030” และเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-X มีประเด็นสำคัญอาทิ ซูม – ซูม อย่างยั่งยืน ภายในปี 2030 (Sustainable Zoom-Zoom2030) โดยมี แนวทางปฏิบัติประกอบไปด้วยการขยายมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างครบวงจร “Well-to-Wheel” ทั้งที่มาจากขบวนการจัดหาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงเพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานของรถยนต์ และการปล่อยก๊าซ CO2 จากตัวรถยนต์ โดยคำนึงถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์

โดยมาสด้าตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยของทั้งองค์กร Corporate Average Well-to-Wheel CO2 Emission ลดลง 50  % ภายในปี พ.ศ. 2573 เมื่อเทียบจากปี พ.ศ. 2553 และตั้งเป้าหมายลดลงถึง 90%  ภายในปี พ.ศ. 2593

มาสด้าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ด้วยนโยบายการจัดลำดับความสำคัญของการปรับปรุงประสิทธิภาพและมาตรการด้านการปล่อยมลพิษที่สะอาดมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้งานได้บนโลกแห่งความเป็นจริง

เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว มาสด้าดำเนินการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ปัจจุบันทั่วทั้งโลกรถยนต์ส่วนใหญ่ยังคงใช้เครื่องยนต์นี้และมีจำนวนมาก และจะยังคงต่อเนื่องไปอีกหลายปีต่อจากนี้ไป สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และรวมถึงการก่อให้เกิดผลลัพธ์กับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทำงานรวมกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้าในอนาคต

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป จะเริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอื่นๆ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในภูมิภาคที่ใช้พลังงานสะอาดเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือจำกัดเฉพาะยานพาหนะบางอย่างเพื่อลดมลพิษทางอากาศ

ประเด็นสำคัญอีกประการคือ เครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ของ SKYACTIV-X ซึ่งถือเป็นที่สุดของนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยียานยนต์  โดย SKYACTIV-X เป็นเครื่องยนต์เบนซินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของโลกที่สามารถจุดระเบิดได้โดยการอัดอากาศ ผ่านการเผาไหม้ของเครื่องยนต์จะเกิดขึ้นจากการจุดระเบิดของอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมกัน ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ในจังหวะของการอัด

วิธีการเผาไหม้นี้เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งเรียกว่า Spark Controlled Compression Ignition ช่วยแก้ปัญหา 2เรื่องที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้การจุดระเบิดในจังหวะการอัดอากาศ นั่นคือ การเพิ่มพื้นที่เพื่อสามารถทำให้เกิดการจุดระเบิดในจังหวะการอัดของลูกสูบ และการพัฒนาการจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบนี้ได้รวมเอาข้อดีของการจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศและการจุดระเบิดด้วยประกายการเผาไหม้เข้าไว้ด้วยกัน

โดยคุณสมบัติเครื่องยนต์เผาไหม้ใหม่ที่เป็นกรรมสิทธิ์นี้รวมข้อดีของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพื่อให้ได้สมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม สมรรถนะพลังแรงของเครื่องยนต์ และการเร่งสปีดความเร็วที่ยอดเยี่ยม

การจุดระเบิดด้วยการบีบอัดและการใช้ระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ บรรจุและอัดอากาศ ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และสามารถทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และสามารถเพิ่มแรงบิด 10 – 30 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ในปัจจุบัน

การจุดระเบิดด้วยการบีบอัดสามารถช่วยให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบได้ในภาวะ Super Lean Burn  จึงเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้น 20 – 30 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 34 – 45 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินของมาสด้าในปี พ.ศ. 2551 ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน เครื่องยนต์ SKYACTIV-X เทียบเท่าหรือสูงกว่าเครื่องยนต์คลีน ดีเซลรุ่นล่าสุด SKYACTIV-D ในเรื่องของประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

คุณสมบัติของเครื่องยนต์ใหม่นี้ยังมีประสิทธิภาพสูงในช่วงการทำงานที่กว้างของรอบเครื่องยนต์และภาระของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถมีอิสระในการออกแบบค่าอัตราทดเกียร์ที่ต้องการที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม