ซีพีเอ็นย้ำความสำเร็จ ‘CPNlead’ ฝึกอบรม SMEs ฟรีสู่ทดลองตลาดต่อยอดธุรกิจจริง

06 ส.ค. 2560 | 06:14 น.
เซ็นทรัลพัฒนา ดึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแบรนด์ดัง 34 รายร่วมงานโชว์เคสเอสเอ็มอี หลังจากเข้าร่วมหลักสูตร CPNlead (CPN Leading Entrepreneur Advanced Development) ภายใต้ความร่วมมือของ “ซีพีเอ็น” กับ “ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาบริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีฟรี หวังเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน สอดรับนโยบายสานพลังประชารัฐของรัฐบาลในการยกระดับและพัฒนาวงการค้าปลีกไทย

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า การจัดงานโชว์เคสเอสเอ็มอีนั้น คือการที่ซีพีเอ็น ได้เล็งเห็นความสามารถของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้คู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน ซีพีเอ็นเป็นรายแรกในวงการค้าปลีกที่ริเริ่มพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกมากว่า 30 ปี ทั้งในด้านพื้นที่ซึ่งเป็น physical platform และช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ หรือ digital platform ที่ช่วยสนับสนุนความเติบโตให้กับเอสเอ็มอีได้ อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและกูรูด้านธุรกิจระดับประเทศ ร่วมกันเป็นโค้ชให้กับเอสเอ็มอี ให้ความรู้อย่างเข้มข้นครบทุกมิติ ถ่ายทอดโนว์ฮาว ตั้งแต่ภาคทฤษฎี กรณีศึกษา ไปจนถึงการเปิดพื้นที่ให้ได้ลงมือทดลองตลาดจริง อย่างเช่นการจัดงาน “รวมมิตรมาร์เก็ต” เพื่อเป็นเวิร์คช้อปให้เอสเอ็มอีที่เข้าฝึกอบรมกับเราได้รับประสบการณ์ตรง

cpn2

ด้านผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้อำนวยการหลักสูตร CPNlead กล่าวว่า โครงการ CPNlead เป็นเหมือน gateway to success ที่เน้นให้ความรู้อย่างครอบคลุมและการลงมือปฏิบัติจริง โดยการให้เครื่องมือทางธุรกิจ ซึ่งจะเน้นในเรื่องของ case study การเข้าใจในเรื่อง customer centric เรียนรู้ journey ของลูกค้า ซึ่งผู้เรียนก็จะได้ในเรื่องของการมองหาโอกาส การขยายธุรกิจของตัวเองได้ ทั้งในแง่ออนไลน์และออฟไลน์ โดยในส่วนนี้ก็จะได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารของซีพีเอ็น และเครือข่ายวิทยากรของทางธรรมศาสตร์ รวมถึง expert ของแต่ละธุรกิจ ให้คำแนะนำในมุมของความเป็นจริง อะไรบ้างที่คุณควรจะ concern อะไรที่สำคัญในเรื่องการทำการตลาด operation บุคลากร เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจตรงนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการมี passion อย่างเดียว แต่เพิ่มในส่วนของ inspiration เข้าไปให้รู้จักครีเอท signature ของตัวเอง รวมถึงขยายและทำให้ธุรกิจเติบโตได้

ในส่วนของตัวแทนนักเรียน SMEs ผู้เข้าร่วมหลักสูตร และได้ร่วมกิจกรรมเปิดป๊อปอัพสโตร์ทั้ง 2 ครั้งที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” และ “เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล” ได้พูดถึงความประทับใจและความรู้ที่ได้รับ ซึ่งได้นำไปต่อยอดและสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของตัวเองได้อย่างแท้จริง

นายพงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ (โอ๊ต) จาก “เรือนเพชรสุกี้” กล่าวว่า หลักสูตร CPNlead มีความครอบคลุมและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริง เวลาเรียนรู้สึกสนุก ได้ความรู้และประสบการณ์จากผู้บริหารจากหลายๆ ธุรกิจ ทำให้นำมาคิดต่อยอดได้อีกมาก และที่สำคัญคือได้เพื่อนซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมือนกัน ทำให้ได้แชร์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ในหลายๆ เรื่อง ในส่วนของภาคปฏิบัติที่ได้เปิดป๊อปอัพสโตร์ ‘รวมมิตรมาร์เก็ต’ ทั้ง 2 ครั้ง ทำให้ได้ความรู้ที่แตกต่างกัน ครั้งแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้เรียนรู้การสร้างแบรนด์และคิดโปรดักส์ใหม่ ดังนั้น ความท้าทายก็คือจะสื่อสารอย่างไรให้ลูกค้ารู้จักและเข้าใจสิ่งที่ครีเอทขึ้นมาใหม่ แต่พอได้มาเปิดร้านที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล์ คราวนี้ได้เป็นตัวของตัวเอง ทำให้รู้ว่า signature ของเราคืออะไร ทำให้สามารถคิดต่อยอดและทุ่มเทกับมันได้เต็มที่ และเป็นครั้งแรกที่นำ ‘สุกี้มาแพ็คสุญญากาศในรูปแบบฟรีซ’ ซึ่งแนวคิดนี้มาจาก customer insight ที่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่มีเวลาพอที่จะไปนั่งที่ร้าน ก็สามารถซื้อแพ็คสุกี้สำเร็จรูปที่แช่แข็งกลับไปแช่ตู้เย็นที่บ้านได้นานถึง 1 เดือน

cpn1

นายจิตพล ศิริวัฒเมธางกูร (บูม) จากแฟชั่นมัลติแบรนด์ “CAMP” กล่าวว่า CAMP เป็น Multi-brand ที่รวบรวมโปรดักส์ของ Local Designer และกระจายสู่สายตาของลูกค้า ตอนนี้ก็มีสาขาที่เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่นด้วย จริงๆ การเปิดป๊อปอัพสโตร์ก็คือผลลัพธ์ของสิ่งที่ได้เรียนรู้จากโครงการ CPNlead ที่เด่นชัดคือเรื่องของ Omni-Channel ซึ่งไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนก็รู้สึกว่าคอนเซ็ปต์นี้น่าสนใจ ก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม และตอนนี้ Omni Channel ของ CAMP เองก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว การเป็น Multi-Brandจึงมี Supplier หลายร้อยคนอยู่ด้วยกัน Omni Channel จึงเป็น Seamless Communication ตั้งแต่ supplier ไปจนถึงบริการหลังการขาย โดเขาจะทำข้อมูลตรงนี้ให้เป็น real time เช่น ตอนนี้ Stock อะไรมีอยู่บ้าง ยอดขายวันนี้ขายอะไรไปบ้าง ทำให้สามารถโยกย้ายสินค้า แก้สินค้าผ่านระบบตัวกลาง โดยที่ไม่ต้องผ่านคน ยกตัวอย่าง ถ้า supplier ต้องการลดราคาสินค้า แทนที่จะต้องกรอกแบบฟอร์มส่งมาทางบริษัทกลายเป็นว่าตอนนี้สามารถกรอกส่วนลดออนไลน์ได้เลย ทุกอย่างจะออโตเมติกหมด

สำหรับหลักสูตร “CPNlead” ซีพีเอ็นได้เปิดพื้นที่ให้เอสเอ็มอีได้ลงมือทดลองทำตลาดจริง กับเวิร์คช้อปในรูปแบบป๊อปอัพสโตร์สุดสร้างสรรค์ ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้ง คือ

1) เปิดพื้นที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ครั้งแรกที่กลุ่มเพื่อนเอสเอ็มอีได้ทำงานร่วมกัน และเรียนรู้การ “สร้างแบรนด์” ภายใต้ “Hybrid Concept” โดยแบ่งการทำงานเป็น 6 กลุ่ม ร่วมมือกันคิด คอนเซ็ปต์แปลกใหม่ผสมผสานความโดดเด่น หรือ identity ของแบรนด์สมาชิกในกลุ่ม ทั้ง อาหาร แฟชั่น สินค้าและบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เอสเอ็มอีแบรนด์ดังได้มารวมตัวกันครีเอทผลิตภัณฑ์สุดชิคแสนเก๋ ภายใต้การ “สร้างแบรนด์” ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น แบรนด์ Mr. Big Pillow, แบรนด์ BRIX DESSERT BAR, แบรนด์ Wakinbee, แบรนด์ Fablab, แบรนด์ SOS Sense of Style และแบรนด์ Café Reverie เป็นต้น

2) เปิดพื้นที่ “เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล์” รวมของดีของเด็ด คอนเซ็ปต์ปัง ภายในงานป๊อปอัพสโตร์สุดชิคที่เอสเอ็มอีตั้งใจครีเอทสินค้าและบริการไอเดียโดนใจมาจัดจำหน่ายที่งานนี้เป็นครั้งแรก ในส่วนนี้เอสเอ็มอีแต่ละคนจะได้ลงมือวางแผนธุรกิจและลงมือออกร้านและขายสินค้าหรือบริการของตัวเองจริงๆ เช่น “ซาลาเปาโฮลวีท แบรนด์ BUN101” “สินค้าและบริการเพื่อครอบครัว แบรนด์ Milk Kid’s Salon & Nails” “กางเกงยีนส์ custom-made แบรนด์ Selvedgework” และ “ชุดเครื่องนอนและของแต่งบ้าน คุณภาพดี ดีไซน์เก๋ จาก Vintel คอนเซ็ปต์สโตร์”