‘ธปท.เหนือ’ชี้ท่องเที่ยวฉลุย ชาวจีนกลุ่มหลักเงินสะพัดโรงแรม-ร้านอาหาร

09 ส.ค. 2560 | 08:37 น.
แบงก์ชาติภาคเหนือชี้ท่องเที่ยวยังฉลุยแม้โลว์ซีซัน ชาวจีนแห่บุกล้านนากระตุ้นเศรษฐกิจภาคบริการ ตั้งแต่โรงแรมยันร้านอาหาร ส่วนภาคส่งออกชายแดนลดลงเล็กน้อย

นายสิงห์ชัย บุณยโยธินผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคเหนือธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือไตรมาส 2 ปี 2560 ว่า เศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ มีการปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยภาคเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นได้แก่ ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะผลผลิตข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นมากและอ้อยโรงงานเลื่อนการเก็บเกี่ยวในไตรมาสนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเช่นกันจากวัตถุดิบการเกษตรเพิ่มขึ้นข้างต้นทำให้ปริมาณการสีข้าวและผลผลิตนํ้าตาลเพิ่มขึ้นรวมถึงการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวได้ต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดเอเชีย และเยอรมนี ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มต่อเนื่อง ด้านการลงทุนภาคเอกชนแม้ปรับดีขึ้นแต่ยังไม่ชัดเจน โดยในส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นการนำเข้าเครื่องจักรของธุรกิจผลิตเพื่อส่งออกเป็นสำคัญ ด้านการใช้จ่ายภาคเอกชนยังไม่เข้มแข็งแม้มีการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงทนจากยอดจดทะเบียนยานพาหนะเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายสินค้าในชีวิตประจำวันยังฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ดีในส่วนของการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐยังตํ่ากว่าเป้าหมาย และการส่งออกหลักของภาคเหนือ ได้แก่ การค้าผ่านด่านชายแดนไปสหภาพเมียนมา และ สปป.ลาว หดตัว

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปของภาคเหนือยังอยู่ในเกณฑ์ดี พิจารณาจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับตํ่าเงินเฟ้อลดลงจากราคาผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ข้าวและแป้งลดลง รวมถึงราคานํ้ามันเชื้อเพลิงชะลอตัว ยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อของสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือหดตัวเล็กน้อยขณะที่ยอดคงค้างเงินฝากชะลอตัว

“ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้แม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยวส่วนสำคัญจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและภูมิภาคอื่นเพิ่มขึ้นโดยเครื่องชี้การท่องเที่ยวสำคัญสูงกว่าระยะเดียวกันปีก่อนได้แก่ จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานในภาคเหนือ จำนวนเที่ยวบินตรงสู่ท่าอากาศยานภาคเหนือจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ อัตราการเข้าพักของที่พักแรมภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับยอดสินเชื่อที่ให้แก่ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้น

MP24-3285-1 นายสิงห์ชัย กล่าวต่อไปว่า การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.5% โดยปรับดีขึ้นในบางกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ การลงทุนในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น พิจารณาจากการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแปรรูปเกษตรเพื่อส่งออก ยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์เพื่อใช้ในธุรกิจขนส่ง

และการค้า ขณะที่เครื่องชี้นำภาคการก่อสร้างขยายตัวในหมวดพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างประเภทอพาร์ตเมนต์ อาคารพาณิชย์และโรงแรม อย่างไรก็ตามเครื่องชี้ภาวะอสังหาริมทรัพย์ยังซบเซา โดยยอดคงค้างสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่ให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังหดตัวสะท้อนจากการเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่มีน้อยลง ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยชะลอลงจากไตรมาสก่อน

“มูลค่าการส่งออกลดลง 1.1 % จากระยะเดียวกันปีก่อนโดยมูลค่าหลักๆมาจากการลดลงของยอดส่งออกสินค้าชายแดนไปสหภาพเมียนมาในหมวดสินค้าประเภทโทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรกลการเกษตรและนํ้าตาลทราย ประกอบกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สุกรมีชีวิตและรถยนต์

บรรทุกไป สปป.ลาว ก็ลดลงเช่นกันเนื่องจากทางการจีนเข้มงวดการนำเข้าสินค้าผ่านช่องทางนี้มากขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอ นิกส์ไปตลาดเอเชียและเยอรมนีขยายตัวดีจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญปรับดีขึ้น ด้านมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 30.1% จากการนำเข้ากระแสไฟฟ้าจากสปป.ลาว และการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่งออก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560