ตั้งบริษัทโทรคมฯแห่งชาติ ‘แคท-ทีโอที’ชงนายกฯมีบอร์ดชุดเดียว-ลดซํ้าซ้อน
“แคท-ทีโอที” ทนแรงบีบจัดตั้งบริษัทลูกไม่ไหว ขอถอย 1 ก้าว ยื่นข้อเสนอถึง “ประยุทธ์” ทบทวนมติครม. กลับมาใช้โครงสร้างเดิมด้วยการจัดตั้งบริษัทการสื่อสารโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ลั่น! ต้องการให้มีคณะกรรมการชุดเดียว เพื่อควบคุมนโยบายและควบคุมการลงทุนซํ้าซ้อน
นายสังวรณ์ พุ่มเทียน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สร.กสท เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ทาง สร.กสท และ สรท.(สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)) ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีการจัดตั้งบริษัท โครงข่ายบรอด แบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN Co.) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศ และศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC Co.) ที่กำลังจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและอยู่ระหว่างการสำรวจทรัพย์สิน
อย่างไรก็ตาม การยื่นหนังสือครั้งนี้ทาง สร.กสทได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้ใช้โครงสร้างเดิมด้วยการจัดตั้ง บริษัท การสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecom Holding) หรือ NTH โดยมีกระทรวงการ คลังถือหุ้น 100% ข้อดี คือ มีคณะกรรมการบริษัท การสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติฯ เพียงคณะเดียว เป็นผู้กำหนดนโยบายให้ทั้ง 2 หน่วยงานดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ควบคุมการลงทุนซํ้าซ้อน ของทั้ง 2 หน่วยงาน ลดการแข่งขันกันเอง และง่ายต่อการสรรหาพันธมิตร
“ถึงแม้ ครม.จะมีมติแล้วก็ตาม ถ้าไม่ฟังเสียงคัดค้านปัญหาเกิดขึ้น คงไม่แตกต่างจากนโยบายรับจำนำข้าว หรือคดีภาษีสรรพ สามิตครับ ประเด็นคือ นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดศ. จะออกมารับผิดชอบหรือเปล่า ใครจะรับผิดชอบ เพราะถ้ามีบอร์ดเดียว บริหารการลงทุนซํ้าซ้อนได้อีกด้วย”
นายสังวรณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เหตุผลที่ยื่นโครงสร้างเดิม เนื่องจากว่าทั้ง 2 สหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่สามารถตกลงกันได้เนื่อง จากผลประกอบการของ บมจ.ทีโอที อยู่ในสถานะที่มีผลกำไร
ด้านนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัท NBN Co. ว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันที่ NBN Co. และ NGDC Co. จะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการ โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และการดำเนินสรรหาบุคลากรไปยังบริษัท NBN Co. จำนวน 1,200 คน ประเมินทรัพย์สิน
“เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมาย เพราะ NBN Co.และ NGDC Co. ไม่ได้จัดตั้งบริษัทใหม่แต่เป็นธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้วและก็มีลูกค้าอยู่ในมือ นอกจากนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทีโอที ได้จัดตั้งสำนักงานโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างชั่วคราวซึ่งเป็นสำนักงานชั่วคราวเริ่มดำเนินการแล้วในวันนี้หลังครบ 3 เดือนก็จะดำเนินการได้ในทันที”
ด้านนายสรรพชัย หุวะ-นันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ แคท กล่าวว่า จำนวนพนักงาน NGDC Co. อยู่ที่ 479 คนและพนักงานที่ถูกโอนย้ายไม่ได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่บุคคลที่โอนย้ายไปมีสิทธิประโยชน์ดีกว่า แต่จะให้พนักงานสมัครใจ หากไม่ครบจำนวนจะใช้วิธีสรรหาบุคคลจากภายนอกองค์กร
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าการปรับโครงสร้าง องค์กรครั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง ออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง และเพื่อลดแรงกดดันทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของทั้ง 2 องค์กร และถัดจากนั้นเพียงวันเดียว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ตรวจเยี่ยมกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งเป็น การตรวจเยี่ยมครั้งที่ 3 เพื่อลดแรงกดดันเช่นเดียวกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายสังวรณ์ พุ่มเทียน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สร.กสท เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ทาง สร.กสท และ สรท.(สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)) ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีการจัดตั้งบริษัท โครงข่ายบรอด แบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN Co.) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศ และศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC Co.) ที่กำลังจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและอยู่ระหว่างการสำรวจทรัพย์สิน
อย่างไรก็ตาม การยื่นหนังสือครั้งนี้ทาง สร.กสทได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้ใช้โครงสร้างเดิมด้วยการจัดตั้ง บริษัท การสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecom Holding) หรือ NTH โดยมีกระทรวงการ คลังถือหุ้น 100% ข้อดี คือ มีคณะกรรมการบริษัท การสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติฯ เพียงคณะเดียว เป็นผู้กำหนดนโยบายให้ทั้ง 2 หน่วยงานดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ควบคุมการลงทุนซํ้าซ้อน ของทั้ง 2 หน่วยงาน ลดการแข่งขันกันเอง และง่ายต่อการสรรหาพันธมิตร
นายสังวรณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เหตุผลที่ยื่นโครงสร้างเดิม เนื่องจากว่าทั้ง 2 สหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่สามารถตกลงกันได้เนื่อง จากผลประกอบการของ บมจ.ทีโอที อยู่ในสถานะที่มีผลกำไร
ด้านนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัท NBN Co. ว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันที่ NBN Co. และ NGDC Co. จะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการ โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และการดำเนินสรรหาบุคลากรไปยังบริษัท NBN Co. จำนวน 1,200 คน ประเมินทรัพย์สิน
“เป็นไปตามแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมาย เพราะ NBN Co.และ NGDC Co. ไม่ได้จัดตั้งบริษัทใหม่แต่เป็นธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้วและก็มีลูกค้าอยู่ในมือ นอกจากนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทีโอที ได้จัดตั้งสำนักงานโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างชั่วคราวซึ่งเป็นสำนักงานชั่วคราวเริ่มดำเนินการแล้วในวันนี้หลังครบ 3 เดือนก็จะดำเนินการได้ในทันที”
ด้านนายสรรพชัย หุวะ-นันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ แคท กล่าวว่า จำนวนพนักงาน NGDC Co. อยู่ที่ 479 คนและพนักงานที่ถูกโอนย้ายไม่ได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่บุคคลที่โอนย้ายไปมีสิทธิประโยชน์ดีกว่า แต่จะให้พนักงานสมัครใจ หากไม่ครบจำนวนจะใช้วิธีสรรหาบุคคลจากภายนอกองค์กร
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าการปรับโครงสร้าง องค์กรครั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง ออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง และเพื่อลดแรงกดดันทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของทั้ง 2 องค์กร และถัดจากนั้นเพียงวันเดียว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ตรวจเยี่ยมกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งเป็น การตรวจเยี่ยมครั้งที่ 3 เพื่อลดแรงกดดันเช่นเดียวกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560