“สถานการณ์น้ำท่วม” ในสายตาประชาชน

06 ส.ค. 2560 | 01:57 น.
สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ที่มีแนวโน้มเข้าขั้นวิกฤตหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นฝนที่ตกหนักต่อเนื่องและน้ำไหลหลาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด ส่งผลให้บ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย ในขณะที่รัฐบาลก็ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์น้ำท่วม “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัย สวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,293 คน ระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2560 สรุปผลได้ ดังนี้

 

1)  ประชาชนคิดอย่างไร? กับสถานการณ์น้ำท่วมที่เริ่มต้นขึ้นในปีนี้

อันดับ 1 รู้สึกเป็นห่วง กังวล น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่   83.68%

อันดับ 2  เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น  74.56%

อันดับ 3  สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน และกระทบเศรษฐกิจ 68.29%

อันดับ 4  รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาระยะยาว มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี 67.21%

อันดับ 5  เป็นฝีมือมนุษย์ เห็นแก่ตัว ทำลายธรรมชาติ  53.29%

 

2)  “สาเหตุ” ของปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในประเทศไทย คือ

อันดับ 1  ภัยธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม การตัดไม้ทำลายป่า 78.50%

อันดับ 2  การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ  73.16%

อันดับ 3  ขยะอุดตัน ไม่ขุดลอกคูคลอง สิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ  66.13%

อันดับ 4  เขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ ชำรุด  61.79%

อันดับ 5  ระบบแจ้งเตือน ระบบเตือนภัยไม่มีประสิทธิภาพ  54.76%

 

3)  “มาตรการป้องกันน้ำท่วม” ที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ

อันดับ 1  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือ มีมาตรการฉุกเฉิน เตือนภัย  80.28%

อันดับ 2  ลอกท่อ ขุดลอกคูคลอง เก็บขยะให้พ้นทางน้ำ   79.81%

อันดับ 3  ตรวจสอบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ ซ่อมแซมจุดที่ชำรุด 70.77%

อันดับ 4  ในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมเรือ เครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย  60.40%

อันดับ 5  ชี้แจงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ เตรียมพร้อมป้องกัน 56.69%

 

60-2861_1 4)   ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ได้หรือไม่

อันดับ 1  ไม่ค่อยเชื่อมั่น  38.99%

เพราะ ดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีน้ำท่วมไปแล้วในหลายพื้นที่ ระบบบริหารจัดการน้ำ ไม่มีความชัดเจน น้ำท่วมเป็นปัญหาใหญ่ ทุกรัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ฯลฯ

อันดับ 2   ค่อนข้างเชื่อมั่น 27.36%

เพราะ  นายกฯลงพื้นที่ใกล้ชิด ทำงานอย่างจริงจัง มีหน่วยงานหลายฝ่ายให้ความร่วมมือ คิดว่าปริมาณน้ำไม่มากเท่าปี 54 ฯลฯ

อันดับ 3  ไม่เชื่อมั่น 18.22%

เพราะ ไม่มีการเตรียมพร้อม ไม่มีการรับมือ ภัยธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้ เป็นปัญหาซ้ำซาก น้ำท่วมทุกปี ฯลฯ

อันดับ 4  เชื่อมั่นว่าจะรับมือได้ 15.43%

เพราะ  มีอำนาจสั่งการ มีกองกำลังทหารในทุกพื้นที่ รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือ นำเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นแนวทางในการแก้ไขได้  ฯลฯ

 

5)  บทเรียนที่ได้จากการประสบปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่าน ๆ มา ที่สามารถนำมาปรับใช้ในปีนี้  คือ

อันดับ 1  ภาครัฐควรวางแผนบริหารจัดการน้ำ ระบายน้ำอย่างรวดเร็ว  79.66%

อันดับ 2  จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้กำลังใจผู้ประสบภัย  73.94%

อันดับ 3  เตรียมของช่วยเหลือสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า ยารักษาโรค ฯลฯ 71.93%

อันดับ 4   ดูแลสุขภาพร่างกาย ป้องกันโรคที่มาจากน้ำ  66.98%

อันดับ 5   ติดตามข่าวสาร สภาพอากาศ ฟังการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด 64.35%