สสส.ครบ15ปีเดินหน้าปรับวิถีชีวิตประชาชนให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

04 ส.ค. 2560 | 07:04 น.
สสส.ผนึกภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ จัด “15 ปี สสส. การเดินทางของความสุข” เดินหน้าเน้นความเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ หวังเสริมศักยภาพให้ประชาชนพึ่งตัวเองมากขึ้น สามารถปรับวิถีชีวิตตนเองเพื่อเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า การที่ สสส.เป็นหน่วยงานที่มีรูปแบบเฉพาะในการดำเนินงาน แตกต่างจากหน่วยงานราชการ ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้การเชื่อมประสานงาน เกิดความคล่องตัวและลดช่องว่างระหว่างหน่วยงาน และภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคราชการ เอกชน วิชาการ ประชาสังคม และชุมชนท้องถิ่นได้ นำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานประ เด็นต่างๆ โดยเฉพาะความเข้มข้นในการขับเคลื่อนให้เกิดสังคมปลอดบุหรี่ จนสามารถลดอัตราของผู้สูบบุหรี่ในไทยต่ำลงกว่า 20% เป็นครั้งแรก

ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการดื่มของคนไทย ที่นิยมดื่มในงานบุญประเพณีต่าง ๆ หรือการให้เหล้าในช่วงเทศกาลสำคัญ จนสามารถทำให้ภาพรวมปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่อหัวประชากรต่อปีลดลงจาก 8.16 ในปี 2549 มาอยู่ที่ 6.95 ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่อคนต่อปี ในปี 2558 ลดลงถึง 14.8% การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนให้สามารถจัดการด้านสุขภาพ ที่เน้นการใช้พื้นที่เป็นฐานในการพัฒนาจนเกิดตำบลสุขภาวะ กว่า 2,800 ตำบล ทั่วประเทศ

sss1

“ด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ที่จุดกระแสความตื่นตัวในวงกว้างภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีดำริในที่ประชุมคณะมนตรี(ค รม.) ให้หน่วยงานราชการทุกแห่งจัดให้ มีกิจกรรมทางกายทุกวันพุธ ซึ่งเป็นผลจากการประชุมนานาชาติ ว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ ที่ประเทศไทยโดย สสส. เป็นเจ้าภาพ เป็นเวทีให้ 80 ประเทศทั่วโลก ได้ร่วมกันประกาศ “ปฏิญญากรุงเทพ” เพื่อผลักดันมาตรการเพื่อการมีกิจกรรมทางกาย และปัจจุบันกิจกรรมออกกำลังกายประจำสัปดาห์ ได้ขยายไปสู่องค์กรอื่นทั้งภาคเอกชนและท้องถิ่น ซึ่งผมเชื่อว่า จะเป็นตัวเร่งสำคัญไปสู่เป้าหมายระดับชาติในการเพิ่มจำนวนคนไทย ที่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอหรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ให้ได้ 80% ของประชากรในปี 2564”

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า สสส. เป็นกองทุนสร้างเสริมสุขภาพจากภาษีบาปที่ได้รับยอมรับในระดับนานาชาติ โดยองค์การอนามัยโลก ยกให้ สสส. เป็นต้นแบบของกลไกการเงินเพื่อสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืนประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียใต้ - ตะวันออก (South-East Asia Region) รวมทั้งสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ จัดตั้งองค์กรเช่นเดียวกับ สสส. อย่างจริงจัง ซึ่ง สสส. มีส่วนสนับสนุนการเกิดกองทุน สสส. ในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย, มองโกเลีย, ลาว, เวียดนาม เป็นต้น อีกทั้งผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ เพียงเฉพาะด้านการสื่อสารรณรงค์ ได้รับรางวัลระดับประเทศและสากล กว่า 250 รางวัล

ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า หากเปรียบ สสส. เป็นต้นไม้ ถึงวันนี้ถือว่าได้เติบโต ผ่านประสบการณ์เรียนรู้มาหลายฤดู ตลอด 15 ปีของการทำงาน สสส. เกิดผลงานที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางสังคม เช่น ร่วมมือกับภาคีขยายเครือข่ายสร้างสังคมไทยไร้ควันบุหรี่ ด้วยการสนับสนุนกฎหมายด้านควบคุมยาสูบต่างๆ และการบังคับใช้ รวมถึง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ที่มีผลบังคับใช้ จนไปถึงการสื่อสารสาธารณะสร้างความตระหนักทางสังคม ด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดการผลักดันกฎหมาย/ นโยบายเกี่ยวกับการควบคุมแอลกอฮอล์และเป็นวาระแห่งชาติ ทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 แผนยุทธศาสตร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พ.ศ.2552 - 2562 การเปิดพื้นที่ “ปลอดเหล้า” ตามงานบุญประเพณีงานเทศกาลต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ภาพรวมปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรไทยลดลง จึงถือว่าการทำงานของ สสส. เป็นมูลค่าเพิ่มที่ประชาชนได้จากองค์กรลักษณะนี้

sss

“การนำภาษีบาป เช่น เหล้า บุหรี่ ที่แยกต่างหากจากภาษีปกติ มาใช้สร้างสุขภาพแนวใหม่ แม้เงินที่เพิ่มเข้ามาจะคิดเป็น เพียง 0.7% ของค่าใช้จ่ายภาครัฐด้านสุขภาพ แต่สามารถช่วยให้เกิดกระบวนการที่ แก้ไขต้นเหตุของปัญหาสุขภาพอันได้แก่การดูแลปัจจัยเสี่ยง กระตุ้นการตื่นตัวของประชาชนในการดูแลตัวเอง เกิดองค์ความรู้ และกลไกทางสังคมร่วมไปกับภาครัฐ มีกติกาต่างๆ กระบวนการเสริมสร้างความรู้เท่าทัน เกิดการสร้างสุขภาพกว้างขวาง และเกิดผลลัพธ์จำนวนมาก ดังนั้นในก้าวต่อไปของ สสส. จะเน้นความเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเสริมศักยภาพให้ประชาชนพึ่งตัวเองมากขึ้น สามารถปรับวิถีชีวิตตนเองเพื่อเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี พร้อมขยายงานด้านต่างๆ ทั้งเชิงระบบองค์กร ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมากขึ้น” ดร.สุปรีดา กล่าว

สำหรับงาน “15 ปี สสส. การเดินทางของความสุข” จัดขึ้นเพื่อนำเสนอกลไกการทำงาน สร้างเสริมสุขภาพแนวใหม่ และผลการดำเนินงานที่ได้ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายกว่า 15,000 องค์กร ขับเคลื่อนการทำงานประเด็นต่างๆ ผ่านวิธีการทำงานด้านการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการถาวร แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ 1.แนะนำ สสส. สร้างเสริมสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ 2.จุดเริ่มต้นของ สสส. และการดำเนินงาน 15 ปี 3.เล่าอดีตเพื่อก้าวไปข้างหน้า ผ่าน 15 บทเรียนสำคัญ 4.คนเล็กๆ ที่มีหัวใจใหญ่ กับการบอกเล่าเรื่องราวของคน 150 คนที่ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะมาตลอด 15 ปี 5.แนวคิดไตรพลังและ Working Model Health Promotion 6.การตลาดเพื่อสังคมมากกว่า 150 แคมเปญ ในการเปลี่ยนแปลงสังคม และ 7.บทส่งท้ายตลอดเส้นทางแห่งความสุข

ไฮไลท์คือ 15 บทเรียนสำคัญ ที่สร้างจุดเปลี่ยนแก่สังคม อาทิ เล่าเรื่องเหล้ากับความสำเร็จในการดึงเหล้าออกจากชีวิตของสังคมไทย โดยเฉพาะแคมเปญ “จน เครียด กินเหล้า” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก , ปอดปลอดโปร่ง ในการขับเคลื่อนสังคมไทยไร้ควัน , ตั้งสติก่อนสตาร์ท ในการลดอุบัติเหตุ, ขยับบ่อยๆ ดีที่สุด เพื่อลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง, ว่าด้วยเรื่องการกิน ในการสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงโภชนาการที่เป็นประโยชน์ปลอดภัย, สุขภาพดีตามวิถีชุมชน, ความแตกต่างไม่ใช่ข้อจำกัด, เพิ่มพลังผู้บริโภค, สวดมนต์ข้ามปี, ติดอาวุธให้คนทำงานในระบบบริการ สุขภาพ, ต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพระดับ โลก

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนา “ThaiHealth’s Talk” แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ของความสุข และแบ่งปันเรื่องราวสร้างแรงบัน ดาลใจจากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายส าขา และ Showcase “นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาวะ” จากภาคีเครือข่ายบริเวณชั้น 1-6 ของอาคารศูนย์การเรียนรู้ฯ รวมกว่า 31 นวัตกรรม เช่น รูปแบบช่วยเลิกบุหรี่ด้วยวิธีการนวดกดจุดสะท้อนเท้า พลิกมุมมองเรื่องเพศคุยกับลูกเชิงบวก เป็นต้น โดยประชาชนที่สนใจและภาคีเครือ
ข่ายเข้าร่วมงานกว่า 500 คน