SUPER เซ็น MOU ยักษ์ใหญ่เวียดนามลุยโซลาร์-ลม

02 ส.ค. 2560 | 08:40 น.
SUPER เซ็น MOU กับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และลมขนาดกำลังการผลิตรวม 400 เมกะวัตต์ คาดเริ่มปักหมุดก่อสร้างได้ภายในปีนี้ บิ๊กบอส “จอมทรัพย์ โลจายะ” ลั่นพร้อมลุยงานในต่างประเทศเต็มสูบ หวังดันรายได้ปี”60 นิวไฮต่อเนื่อง

superblock นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านการปฏิบัติการดูแลบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานขยะ และพลังงานลม เปิดเผยว่า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม ร่วมกันศึกษาและพัฒนาในการร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลม จำนวน 400 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะก่อสร้างภายในปีนี้

ทั้งนี้ พันธมิตรในประเทศเวียดนาม ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานโดยตรง ซึ่งมั่นใจว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และทำให้แนวโน้มรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

“บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปีนี้จะเห็นการเข้าไปร่วมลงทุนหรือเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับดีมานด์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น และในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งบริษัทฯได้วางแผนในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2560-2562)สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากต่างประเทศ”นายจอมทรัพย์กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศจีนที่เข้าไปลงทุนในช่วงก่อนหน้ากำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3/60 นี้ รวมถึงรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศ

ปัจจุบัน SUPER มีใบอนุญาตขายไฟฟ้า 809 เมกะวัตต์ ดำเนินการขายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว (COD) จำนวน 735 เมกะวัตต์ คาดปีนี้จะมากกว่า 809 เมกะวัตต์ สนับสนุนให้ปีนี้มีรายได้จากการขายไฟฟ้า New High ขณะที่ผลกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา