มาโก้ กางแผนธุรกิจ 3 ปี เตรียมกวาดรายได้เท่าตัว พร้อมเพิ่มรายได้จากสื่อดิจิตอลเป็น 20% รับเทรนด์ผู้บริโภค เตรียมลุยตลาดต่างจังหวัดหัวเมืองติดป้ายโฆษณาดิจิตอล ขณะที่รายได้ปีนี้คาดโต 20% โกย 900 ล้าน
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้ง เปิดเผยว่า ได้วางเป้าหมายธุรกิจในระยะ 3 ปีนังจากนี้ หรือภายในปี 2561 จะมีรายได้เติบโต 2 เท่าตัว หรือมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง 25-30% นับจากปัจจุบัน ที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 900 ล้านบาท หรือเติบโตในอัตรา 20% นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 35% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 30% มีสัดส่วนป้ายดิจิตตอลไม่น้อยกว่า 10% จากสื่อที่มีทั้งหมดที่ปัจจุบันมีกว่า 1,000 ป้าย โดยจะมุ่งเน้นไปยังพื้นที่ใจกลางเมืองของหัวเมืองต่างจังหวัด และป้ายดิจิตอล จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20% ของรายได้รวม
“หลังจากนี้ไปตลาดสื่อนอกบ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร ตลาดจะเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะลูกค้าจะประหยัดการใช้เงินมากขึ้น และใช้เงินให้คุ้มค่าเพื่อให้ได้สื่อที่มากขึ้น บริษัทจะนำเอาป้ายว่างที่มีประมาณ 30% ไปจัดแพคเกจร่วมกับวีจีไอ ที่เป็นบริษัทแม่ขายเป็นแพคเก และรวมกับสื่ออื่นๆ เช่น ออนไลน์ สื่อบนรถไฟฟ้า จะได้แพ็คใหญ่และมีส่วนลดมากขึ้น รวมถึงมีลูกเล่นใหม่ๆ ในการผสมผสานสื่อ ส่วนเงินลงทุนในแต่ละปีในการพัฒนาสื่อใหม่ๆ จะใช้เงินประมาณปีละ 300-400 ล้านบาท ยกเว้นการควบรวมกิจการ”
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 199 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน และเติบโต 5% จากไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นผลจากการรับรู้รายได้ของการเข้าซื้อกิจการมัลติ ไซน์ บริษัทสื่อกลางแจ้งในช่วงกลางปีที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายสื่อที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีกำไรเติบโต 37% หรือมีมูลค่า 40 ล้านบานท
ส่วนแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังได้เตรียมขยายเครือข่ายของป้ายแอลอีดีเพิ่มอีก 30 จอ ภายในปลายปีนี้ โดยเน้นขยายในย่านธุรกิจต่างจังหวัด คนสัญจรหนาแน่น ซึ่งปัจจุบันรายได้จากสื่อดิจิตอลยังเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากเพิ่มเริ่มขายสื่อดังกล่าวได้เพียง 1 เดือน โดยคาดว่าหากขายพื้นที่ทั้งหมดจะมีรายได้ 80-100 ล้าบาท ส่วนในปีหน้าจะเพิ่มรายได้เป็น 160-200 ล้าบาทสำหรับป้ายที่มีอยู่เดิม แต่หากรวมป้ายใหม่ที่จะเพิ่มอีกอีก 30 จอ น่าจะเพิ่มได้อีก 100-150 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทได้เริ่มคุยกับพันธมิตรมา 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเป็นตัวแทนขายสื่อให้กับบริษัทใน 7 ประเทศ ได้แก่ กลุ่มซีแอลเอ็มวี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงค์โปร์ ซึ่งบริษัทได้ลงทุนสัดส่วน 40% ร่วมกับบริษัท อายส์บอล แชแนล จำกัด ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ติดตั้งสื่อป้ายโฆษณาทางเข้าสนามบิน 4 ป้าย โดยตลาดในมาเลเซียถือว่ามีอนาคต เพราะมีการใช้เเงินในสื่อโฆษณาใกล้เคียงกับประเทศไทย แม้ว่าจะต่ำกว่าเล็กน้อยก็ตามแต่ยังมีพื้นที่พัฒนาได้อีกมาก ษริษัทจะมีโครงการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มาเลเซียเป็นดาวรุ่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า