ไทยพ่ายขายข้าวฟิลิปปินส์ เวียดนามคว้าบิ๊กล็อต1.7แสนตัน-ลุ้นเปิดรอบใหม่

05 ส.ค. 2560 | 00:03 น.
เวียดนามคว้าประมูลข้าวฟิลิปปินส์ล็อตใหญ่ 1.75 แสนตัน ขณะไทยได้แค่ 2.5 หมื่นตัน ชี้เฉือนราคากันแค่ 3-7ดอลล์ต่อตัน รอหวังฟิลิปปินส์เปิดประมูลอีกครั้ง ก.ย. นี้ เอเซียโกลเด้นไรซ์เบอร์ 1 ส่งออกยังมั่นใจปีนี้ทำได้ 1.5 ล้านตันห่วงวืดชนะประมูล-ผลผลิตข้าวทะลักฉุดราคาตก

จากที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เปิดประมูลซื้อข้าวขาว25%จากภาคเอกชนต่างประเทศปริมาณ 2.5 แสนตัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น

[caption id="attachment_187947" align="aligncenter" width="503"] appsombat2-696x385 สมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด[/caption]

นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในการประมูลครั้งนี้ทราบผลแล้ว โดยเวียดนามชนะการประมูลไปได้ 1.75 แสนตัน ขณะที่ภาคเอกชนจากไทยคือบริษัท นครหลวงค้าข้าว ชนะประมูล 2.5 หมื่นตัน ที่เหลือเป็นโบรกเกอร์จากสิงคโปร์ 2-3 รายที่ชนะการประมูล ทั้งนี้ภาพรวมการเสนอราคาขายซึ่งรวมค่าเรือไปยังหลายท่า รวมค่าประกันภัยและค่าขนส่งภายในของฟิลิปปินส์ไปยังคลังเก็บ ราคาที่เสนอแข่งขันกันส่วนใหญ่จะแตกต่างกันไม่เกิน 3-7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

“เอเซียโกลเด้นไรซ์ เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประมูลครั้งนี้ แต่ไม่ชนะการประมูล ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย อย่างไรก็ดีเราก็มีความหวังจากโบรกเกอร์สิงคโปร์จะมาหาซื้อข้าวไทยเพื่อส่งมอบในครั้งนี้ ซึ่งก็คงขึ้นกับราคาเป็นหลักหากที่ไหนถูกเขาก็คงซื้อที่นั่น อย่างไรก็ดีจากที่ฟิลิปปินส์ยังขาดแคลนข้าว คาดจะเปิดประมูลอีกครั้งในเดือนกันยายน และหลังจากนั้นอาจประมูลเป็นช่วงๆ ขึ้นกับว่าเขาขาดแคลนมากน้อยแค่ไหน”

นอกจากฟิลิปปินส์แล้วล่าสุดรัฐบาลบังกลาเทศยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) กับกรมการค้าต่างประเทศของไทย ซึ่งตามเป้าหมายที่บังกลาเทศประกาศจะนำเข้าประมาณ 6 แสนตัน เป็นข้าวนึ่งและข้าวขาว แต่โดยส่วนตัวมองว่าบังกลาเทศมีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวในปีนี้ระหว่าง 8 แสน- 1 ล้านตัน จากประสบปัญหาภัยแล้งและนํ้าท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ขณะที่ก่อนหน้านี้บังกลาเทศได้เปิดประมูลข้าวทั่วไปแล้ว 2 แสนตัน และเจรจาซื้อขายแบบจีทูจีโดยซื้อข้าวเวียดนามไปแล้ว 2-3 แสนตัน

“ในส่วนของอิรักได้เปิดประมูลซื้อข้าวขาว 5% เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาปริมาณ 6 หมื่นตัน ซึ่งเขาเชิญผู้ค้าข้าวทั่วโลกร่วมเสนอราคา ทั้งจาก อินเดีย เวียดนาม อุรุกวัย สหรัฐฯ ไทย รวมถึงเอเยนต์หรือโบรกเกอร์เข้าร่วม (ซึ่งขณะรายงานยังไม่ทราบผล) อย่างไรก็ตามเวลานี้ราคาข้าวไทยในตลาดโลกได้ลดลงใกล้เคียงกับคู่แข่งขัน เพราะผลผลิตข้าวคร็อปใหม่ของไทยจะเริ่มออกในเดือนหน้า คาดจะมีปริมาณมากจำเป็นต้องเร่งหาตลาดระบาย ไม่เช่นนั้นราคาข้าวในประเทศทั้งข้าวเปลือกและข้าวสารจะลดลงถ้าไม่มีตลาดรองรับซึ่งทราบว่ามีโบรกเกอร์หรือผู้ส่งออกบางรายเสนอขายในราคา ตํ่าซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก”

[caption id="attachment_187944" align="aligncenter" width="427"] ไทยพ่ายขายข้าวฟิลิปปินส์เวียดนามคว้าบิ๊กล็อต1.7แสนตัน-ลุ้นเปิดรอบใหม่ ไทยพ่ายขายข้าวฟิลิปปินส์เวียดนามคว้าบิ๊กล็อต1.7แสนตัน-ลุ้นเปิดรอบใหม่[/caption]

นายสมบัติยังมั่นใจเป้าหมายการส่งออกข้าวของบริษัทที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 1.5 ล้านตันจะสามารถทำได้ จากช่วง 6 เดือนแรกสามารถส่งออกได้แล้วกว่า 8 แสนตัน โดยคาดหมายจะได้ลูกค้าจากอิหร่านสั่งซื้อข้าวเพิ่ม(จากปีนี้อิหร่านสั่งซื้อข้าวไทยไปแล้ว 2.2 แสนตัน) รวมถึงอิรักอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดตลาดซื้อข้าวจากไทยอีกครั้งจากไม่ซื้อมาหลายปี

สอดคล้องกับนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่กล่าวว่า ผู้ส่งออกต้องเร่งหาตลาดรองรับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะมีผลกระทบทำให้ราคาข้าวในประเทศลดลงจากผลผลิตข้าวนาปรังรอบ 2 ที่จะเริ่มออกในช่วงเดือนสิงหาคมและข้าวนาปี 2560/2561 ที่จะเริ่มออกในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้คาดจะมีปริมาณมากจากฝนดีชาวนาปลูกข้าวกันมากขึ้นมองเป็นไปตามกลไกตลาดไม่ใช่ผู้ส่งออกไปกดราคา

“ยังมั่นใจว่าปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 9.5 ล้านตัน โดยการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นจะมาจากฟิลิปปินส์ อิหร่าน บังกลาเทศ ศรีลังกา คาดจะนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่ม รวมถึงข้าวจีทูจีกับจีนที่เหลือตามสัญญาอีก 6 แสนตันที่ต้องเจรจาราคากันเป็นล็อตๆ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือเงินบาทที่แข็งค่าจะมีผลต่อการเจรจาซื้อขายข้าว รวมถึงกำไร-ขาดทุนของผู้ส่งออก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560