การกระโดดงับเหยื่ออันโอชะ ?

29 ก.ค. 2560 | 13:39 น.
การกระโดดงับเหยื่ออันโอชะ ?

"โจรสลัดอันดามัน" คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐ สื่อในเครือสปริง กรุ๊ปเขียนบทความ เรื่องการกระโดดงับเหยื่ออันโอชะ ? ซึ่ง มีใจความว่า

13734314011373431445l

ผมจำเป็นต้องแทรกคิวเขียนเรื่องข้าวเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนนิดนึง จำเดิมจะทยอยเขียนไปเรื่อยๆในซีรีส์ก่อนวันพิพากษา แต่มีเหตุข้อสงสัยกรณีโกดังข้าวที่อ่างทอง ที่สำนักข่าวบางแห่งและรายการข่าวบางรายการกระโดดงับเหยื่ออันโอชะทันที ประหนึ่งว่าการกระทำของรัฐบาลนี้ในการบริหารจัดการข้าวก็ชั่ว และเกิดรูรั่วที่มิอาจสามารถป้องกันได้

หลังจากได้ฟังเจ้าของโกดังออกมาพูด แน่นอนการพูดว่าข้าวดีนำมาขายเป็นข้าวเสื่อมข้าวเน่า รัฐต้องมีตุกติก ชวนให้คิดว่าทุจริตแน่ บางรายการพิธีกรถึงกับพูดและโน้มน้าวแสดงท่าทีหยามหยันรัฐผิดเต็มประตู เจ้าของโกดังคือฮีโร่ตัวจริงทำนองนั้น มีวลีบางถ้อยคำที่ทำให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นเช่นข้าวปี55/56โกดังอื่นขายเป็นข้าวดี แต่โกดังฉันข้าวปี 56/57 ขายเป็นข้าวเน่า รัฐไม่เคยแจ้งผลการตรวจสอบ พร้อมกับฉ่ำข้าวให้ดูว่าของฉันดีนะ ทำไมไม่ตรวจซ้ำก่อนขาย เสียดายข้าวรักษามากับมือต้องขายเป็นข้าวเสื่อม อะไรทำนองนี้

ประสาคนหาข่าวขาย ผมเริ่มคิดและอยากรู้ทันที แถมบ่นในใจ " รัฐและคณะทำงานข้าวชุดนี้ก็ห่วยเหมือนกันนี่หว่า ผมปรามาสในใจ มันเหมือนกันหมดเลยรึนี่"


T06421403-696x501-1

ช้าก่อน...มานิตแก่ อย่าเพิ่งเอะอะโวยวายไป ลองหาข้อมูลพิเคราะห์ดู กรณีข้าวโกดังอ่างทองก่อนเป็นข่าวมีการยื่นให้ศาลเผชิญสืบตรวจโกดังที่อ่างทอง ทำไมช่างบังเอิญเป็นอ่างทองเดียวกันกับที่เป็นข่าวในช่วงถัดมา ...ทำไม
โกดังข้าวที่ว่าเป็นโครงการรับจำนำปี56/57 เป็นคลังสินค้ารับฝากเก็บ ซึ่งเจ้าของต้องรับผิดชอบปริมาณและคุณภาพของข้าวที่รับฝากเก็บ

กรณีที่บอกว่า เป็นข้าวดี ไม่อยากให้รัฐไปขายเป็นข้าวอุตสาหกรรม เพราะรัฐจะเสียหายไม่น้อยกว่าสามสิบล้านบาท อันที่จริงข้าวที่รัฐชุดก่อนจำนำมาด้วยราคาสูงมากๆบิดเบือนกลไกตลาดเช่นนี้ จะขายราคาใด ก็ขาดทุนแน่อยู่แล้ว เพราะต้นทุนข้าวหอมปทุมธานีรับจำนำข้าวเปลือกเมื่อแปรเป็นข้าวสารต้นทุนประมาณ24,000บาทกว่า ขาดทุนแน่ๆตั้งแต่วันรับแรกที่รับข้าวเข้าโกดัง ยังไม่นับค่าฝากเก็บ ค่ารมยา ค่าดอกเบี้ย และความเสียหายที่การรับจำนำทำลายตลาดข้าว กดราคาข้าว ไม่เห็นเจ้าของโกดังออกมาคัดค้าน มีแต่สนับสนุนสร้างขยายโกดังไว้รอรับการจำนำข้าว การออกมาแสดงความห่วงใยว่ารัฐจะเสียหายรายได้ไปสามสิบกว่าล้าน ควรรับฟังหรือไม่

การระงับยับยั้งการขายข้าวในโกดังดังกล่าว มิได้เป็นการระงับความเสียหายของรัฐส่วนที่อ้างว่ารัฐสูญเสีย สามสิบล้านบาท ยิ่งขายช้าลงข้าวยิ่งเสื่อม เมื่อมีข้าวใหม่ออกมาโอกาสที่จะขายได้ราคาดียิ่งน้อยลง แม้แต่ข้าวในโกดัง จำนวน สี่กอง(ไม่มีข้าวเกรดซี) ที่นำออกประมูลขายเมื่อเดือนสิงหาคม2558 ขายเป็นการทั่วไป (ขายเพื่อการบริโภคได้)ยังไม่มีผู้ใดเสนอซื้อเลย นับประสาอะไรกับข้าวที่เก็บล่วงเลยมาสองปีกว่าแถมยังมีข้าวเกรดซีปนอยู่จะมีใครมาเสนอให้ราคาสูง ยิ่งช้ารัฐยิ่งเสียหายที่เห็นชัดฯคือค่าฝากเก็บ แต่คนที่ได้ประโยชน์คือเจ้าของโกดัง

กรณีเจ้าของคลังบอกว่าข้าวที่ตนเก็บรักษาเป็นข้าวคุณภาพดี นั้น การตัดสินว่าข้าวคุณภาพดีหรือไม่ เกณฑ์ตัดสินอันเป็นที่ยอมรับการทั่วโลกคือ ข้าวนั้นมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ มาตรฐานของไทยคือมาตรฐานข้าวที่กำหนดโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ผลการตรวจสอบปรากฎว่า ข้าวในโกดังที่ว่าถูกต้องตามมาตรฐานสองกอง ผิดมาตรฐานสี่กอง หนึ่งในสี่กองผิดมาตรฐานในระดับไม่คุ้มที่จะปรับปรุง ประกอบกับยิ่งเก็บไว้มาเกินกว่าสามปี ข้าวยิ่งจะเสื่อมลง เสื่อมลง

ต้องไม่ลืมว่าเจ้าของโกดังตามสัญญาฝากเก็บต้องรับผิดชอบ และดูแลข้าวให้เป็นไปตามมาตรฐาน ถ้าผิดไปจากนี้ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เจ้าของโกดังมีสิทธิโต้แย้งแสดงข้อเท็จจริงต่อสู้ตามวิถีทางกฎหมาย

20448988_1745597315455282_4997971759917352561_o
คราวนี้ตามไปดูอีกนิดว่าในการตรวจข้าวครั้งแรกส่งเจ้าหน้าไป 100 สาย กว่าพันโกดัง ถ้ายังจำกันได้มีการคำนวนช่วงั้นข้าวที่รัฐบาลที่แล้วเก็บประมาณพื้นที่ 18 สนามหลวง มากมายมหาศาลขนาดไหน ถ้าจะให้ตรวจก่อนขายเพื่อพิสูจน์ข้าวกันอีก ถ้าโกดังนี้ร้องได้ จะไม่ร้องกันทั้งประเทศหรือ แล้วจะวุ่นวายโกลาหล ไม่ต้องขายกันพอดี เป็นข้าวเน่ากันหมดทั้งประเทศ การเรียกร้องให้ตรวจใหม่จึงไม่ง่ายเพราะความเละๆเทะๆที่ทำกันมามันเกินเยียวยาไปแล้ว

ปัญหาที่สืบเนื่องมาจากข้าวจำนำนั้น มีอยู่ว่าข้าวดีและข้าวเสียปะปนกันภายในคลัง ไม่สามารถแยกกองขายตามคุณภาพหรือชนิดได้ เพราะมีกองอื่นบังอยู่ ขายไปแล้วขนออกไม่ได้ ไม่คุ้มค่าในการคัดแยกขายโดยละเอียด ซึ่งได้เคยทดลองดำเนินการแล้วกระทั่งต่อหน้าสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฎว่ามีค่าใช้จ่ายสูงและเสียเวลามากต่อไปอีกหลายปี

ข้าวในสต็อกมีความเสื่อมสภาพและมูลค่าลดลงตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภค ชื่อเสียงและคุณภาพข้าวไทย ตลาดข้าวบริโภคทั่วไปมีขีดจำกัดในการรองรับปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐจากการที่ภาครัฐได้ระบายข้าวไปแล้วจำนวนมากก่อนหน้านี้ และข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นความกดดันในการเร่งรัดระบายข้าวเพื่อแก้ไขปัญหาสต็อกข้าวกดทับตลาดและราคาข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่เกษตรกรจะได้รับ

1f1d7d5aac19ef7eaaa7e5a1277d5141701bb65b9bbfd9bab661da26f1d1e653

ภาระค่าเก็บรักษาข้าวในสต็อกของรัฐและปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การกำหนดเกณฑ์ราคาขั้นต่ำทำให้ขายได้น้อยและที่สำคัญ มีผลกระทบเป็นการชี้นำข้าวในตลาด ส่งผลถึงราคาข้าวที่ชาวนาจะได้รับด้วย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่มีข้อร้องเรียนจากผู้ส่งออกข้าวว่าหากขายไปในตลาดข้าวบริโภคและมีการกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต่ำกว่าตลาดมากจะมีผลกระทบต่อราคาข้าวหอมมะลิที่ส่งออก

ปัญหามันเยอะมากจริงๆ เห็นกันไหมครับ...

การที่ผู้หนึ่งผู้ใดมายับยั้งไม่ให้รัฐขายข้าวและทำเข้าใจผิดในการระบายข้าวของรัฐที่เป็นภาระที่ต้องแบกรับมา มีความไม่ชอบหรือไม่...
มีการให้ข้อมูลครบถ้วนถูกต้องหรือไม่...

ช้าก่อน!!! มานิตแก่ อย่าเพิ่งกระโจนงับเหยื่ออย่างเร่งร้อนนักเลย อดใจรอสักนิดจะดีไหม ...