เอสซีจีโชว์รายได้รวมอาเซียน 6 เดือนแรกโตกว่า 5 หมื่นล.

30 ก.ค. 2560 | 04:30 น.
น่าจับตาผลการดำเนินงานของ"เอสซีจี"ในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 มีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียนเติบโต 52,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน24%ของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ เอสซีจีมีสินทรัพย์รวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มูลค่า 137,783 ล้านบาท หรือราว 25% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท เอสซีจี ที่มีมูลค่า 552,373 ล้านบาท(ณ30มิ.ย.2560)

การลงทุนในอาเซียน เอสซีจีเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะในช่วง5 ปีที่ผ่านมารุกการลงทุนในอาต่อเนื่องโดยเฉพาะธุรกิจปูนซิเมนต์ ที่เอสซีจีขยายฐานการลงทุนไปแล้วในกัมพูชา เมียนมา อินโดนีเซีย สปป.ลาว และเวียดนาม เช่นเดียวกับธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ที่ขยายฐานใหญ่อยู่ในเวียดนาม นอกจากนั้นก็มีที่ฟิลิปปินส์ และที่น่าติดตามคือการลงทุนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่เวียดนามที่มีความชัดเจนแล้ว

-ปิโตรฯเวียดนามคืบ
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า "เอสซีจียังคงเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้อนุมัติการลงทุนใน Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น71% ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 1.88 แสนล้านบาท (5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)ร่วมกับ Vietnam Oil and Gas Group (PetroVietnam)เพื่อดำเนินโครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกของประเทศเวียดนามที่มีความทันสมัยระดับชั้นนำของโลกและมีความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจเนื่องจากเชื่อมโยงจากโรงงานปิโตรเคมีขั้นต้นถึงขั้นปลายครบวงจร สามารถใช้วัตถุดิบได้อย่างยืดหยุ่น (flexible feedstock) มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์ 1.6 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีครึ่ง และจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565 ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าสินค้าและตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี

สำหรับแหล่งเงินกู้ของการลงทุนในโครงการ LSP ที่ประเทศเวียดนามขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยตั้งใจจะกู้เงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในรูปของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะต้องเป็นเงินกู้ที่จะต้องมีระยะเวลากู้ยืม และใช้คืนค่อนข้างยาว ซึ่งอาจจะเป็นการขอกู้ยืมจากธนาคารเพื่อสนับสนุนการส่งออกของประเทศต่างๆ หรืออาจจะเป็นธนาคารพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังได้ดำเนินการศึกษาแหล่งเงินอื่นควบคู่ไปด้วย หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็จะนำมาปรับใช้ โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ทั้งผลภายในสิ้นปีนี้

ซีอีโอเอสซีจีกล่าวว่า เงินลงทุนที่ประเทศเวียดนามจำนวนกว่า 1.88 แสนล้านบาทจะกระทบต่อเงินปันผลหรือไม่นั้น มองว่าเอสซีจีมีแผนลงทุนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รวมโครงการลงทุนดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบแต่อย่างใด ขณะที่อัตราผลตอบแทน (IRR) ของโครงการก็เป็นไปตามที่กำหนดไว้ประมาณ 3-4%

[caption id="attachment_186405" align="aligncenter" width="435"] เอสซีจีโชว์รายได้รวมอาเซียน 6เดือนแรกโตกว่า5หมื่นล. เอสซีจีโชว์รายได้รวมอาเซียน 6เดือนแรกโตกว่า5หมื่นล.[/caption]

-ซีเมนส์อาเซียนแข่งแรง
สำหรับตลาดซีเมนส์ในภูมิภาคมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น อีกทั้งภาพรวมของตลาดแต่ละประเทศก็ไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยที่กลุ่มประเทศอาเซียนที่เป็นหลักใหญ่มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีคู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามา ดังนั้นตลาดจึงไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อผสมผสานกับคู่แข่งที่เข้ามาทำให้ราคาลดลง

ทั้งนี้ สำหรับตลาดซีเมนส์ในภูมิภาคในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ประเทศที่ยังไปได้ดีอยู่คือประเทศกัมพูชาซึงมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ5% ขณะที่เมียนมาร์เฉลี่ยโตที่ 0% ซึ่งเท่ากับปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่เวียดนามที่เติบโตลดลงมาอยู่ที่ 0% เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องพายุเข้าทำให้การก่อสร้างชะลอตัวลง ส่วนอินโดนีเซียติดลบ 2%

อย่างไรก็ตามจากการแถลงข่าวผลประกอบการของเอสซีจีไตรมาส 2 ปี 2560 ล่าสุด แจ้งว่ามีรายได้จากการขาย 108,825 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 13,252 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง24%จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ ประกอบด้วยสภาพตลาดชะลอตัว และการแข่งขันโดยรวมในธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่รุนแรงมากขึ้น ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกปีนี้ เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 225,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสำหรับงวด 30,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับผลประกอบการเอสซีจีงวด6เดือนแรกปี 2560 แยกตามกลุ่มธุรกิจ(ดูตาราง)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,283
วันที่ 30 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560