แหลมฉบังเฟส 3 ลุ้นงบ 100 ล. เพิ่มขีดความสามารถรองรับขนส่งสินค้าทางรถไฟใหม่

ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 เริ่มขยับ กทท.รองบ 100 ล้านบาท ศึกษาทบทวนแผนเพิ่มขีดความสามารถขนส่งสินค้าทางรถไฟใหม่ จากเดิม 3 ล้านตู้ต่อปี เป็น 6 ล้านตู้ต่อปี แล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2568 ประหยัดต้นทุนค่าขนส่งได้ 2.5 แสนล้านบาทต่อปี

ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมาได้อนุมัติแนวทางการพัฒนาท่าเรือนํ้าลึก 3 แห่ง ประกอบด้วยท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3ท่าเรือ มาบตาพุดระยะที่ 3ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ

พร้อมกับอนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)กระทรวงคมนาคม ไปดำเนินการศึกษาทบทวนแบบรายละเอียด สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และมีระบบการจัดการแบบอัตโนมัติโดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือ รองรับการเป็นประตูการส่งสินค้าทางทะเลของเอเชีย และเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ทางกทท.อยู่ระหว่างรองบประมาณวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อมาจัดจ้างที่ปรึกษาทบทวนความเหมาะสมด้านวิศวกรรมเศรษฐกิจ การเงิน และสิ่งแวดล้อม และทบทวนแบบรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติม เนื่องจากผลการศึกษาเดิม ดำเนินการไว้เพียงแค่รองรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟไว้ 4 ล้านตู้ต่อปี จากปัจจุบันรับได้ 1ล้านตู้ต่อปี หรือเพิ่มอีก 3 ล้านตู้ต่อปี เท่านั้นแต่ทางคณะกรรมการอีอีซี ต้องการยกระดับความสามารถเพิ่มขึ้นในส่วนนี้ไปที่ 6 ล้านตู้ต่อปีหรือเพิ่มสัดส่วนขนส่งสินค้าทางรถไฟจาก 7% เป็น 30% จากเป้าหมายการขนส่งตู้สินค้าทั้งหมด18.1ล้านตู้ต่อปี

ทั้งนี้ หากงบดังกล่าวได้รับโดยเร็วและเร่งดำเนินการศึกษา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ประกอบการพิจารณารายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพหรืออีเอชไอเอ ที่ขณะนี้กำลังจะเริ่มเข้าสู่การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในระยะที่ 3 หรือ ค.3 ในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคม 2560

โดยหลังจากรับฟังความคิดเห็นเสร็จแล้ว ในเดือนตุลาคมนี้จะนำเสนอบอร์ดการท่าเรือฯ พิจารณา และนำเสนอสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม(สผ.) ต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2560

[caption id="attachment_186314" align="aligncenter" width="503"] แหลมฉบังเฟส3ลุ้นงบ100ล. เพิ่มขีดความสามารถรองรับขนส่งสินค้าทางรถไฟใหม่[/caption]

ดังนั้น จากการดำเนินงานที่เป็นอยู่ คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถสรุปแบบปรับปรุงท่าเรือเพื่อรองรับการขนส่งด้วยทางรถไฟเพิ่มมากขึ้นได้

ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินงานก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3นี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนโดยส่วนแรก จะเป็นสัญญาก่อสร้างโครงสร้างพื้นที่ คาดว่าจะประกาศประกวดราคาก่อสร้างได้ในเดือนกรกฎาคม 2561ซึ่งในส่วนนี้งบเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่อีกส่วนจะเป็นสัญญาที่ให้เอกชนร่วมลงทุนกับภาครัฐระยะเวลา 30 ปี ในการบริหารท่าเรือ ที่จะต้องมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมอีก งบเดิมตั้งไว้ 8.7หมื่นล้านบาทรวมทั้งโครงการ1.41แสนล้านบาท แต่เมื่อมีการทบทวนปรับปรุงในส่วนการขยายเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีก คาดว่างบโดยรวมน่าจะขยับขึ้นไปที่1.55แสนล้านบาท

ทั้งนี้ หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าทั้งโครงการน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการช้าสุดได้ภายในปี 2568 โดยจะสามารถขนส่งสินค้าเพิ่มจาก 7.7 ล้านตู้ต่อปี เป็น 18.1 ล้านตู้ต่อปี ขนส่งรถยนต์เพิ่มจาก 2 ล้านคันต่อปี เป็น 3 ล้านคันต่อปี ลดต้นทุนขนส่งจาก 14% ของจีดีพีเป็น12%ของจีดีพี ประหยัดเงินได้ประมาณ 2.5 แสนล้านบาทต่อปี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,283
วันที่ 30 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560