ทล.พร้อมรับมือน้ำท่วมสั่งหน่วยงานทั่วป.ท.เฝ้าระวังในพื้นที่ 24 ชม.

28 ก.ค. 2560 | 04:15 น.
กรมทางหลวง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมสั่งหน่วยงานทั่วประเทศเฝ้าระวังในพื้นที่ 24 ชม.

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เผยว่า ตามที่ได้มีมรสุมพัดผ่านประเทศไทยผลเนื่องมาจากกำลัง พายุดีเปรสชัน “เซินกา” (SONCA) ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดพายุลมแรง ดินโคลนถล่ม ต้นไม้ล้ม ทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกัน แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมทางหลวงจึงได้สั่งการให้ผู้อำนวยการแขวง ทางหลวง(104 แขวงทางหลวง) ทั่วประเทศให้อยู่ในพื้นที่และเมื่อเกิดเหตุให้อำนวยการ/สั่งการ รวมถึงรายงานให้ศูนย์ภัยพิบัติ ตามหลักเกณฑ์ และให้รายงานผู้บริหารทุก 4 ชั่วโมง จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ อีกทั้ง ได้สั่งการหมวดทางหลวงทั่วประเทศ จัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบแก่ผู้ใช้ทาง รวมถึง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติและให้เข้าถึงพื้นที่ที่เกิดเหตุทันที เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง พร้อมทั้งให้ดูแลพื้นที่สองข้างทางให้มีขีดความสามารถในการระบายน้ำ เช่น ขุดลอกระบบระบายน้ำ กำจัดวัชพืช กิ่งไม้ที่กีดขวางทางไหลของน้ำ เป็นต้น

nt

อย่างไรก็ตามหากเกิดภัยพิบัติขึ้นหน่วยงานในพื้นที่ต้องเร่งแก้ไขให้การจราจรใช้การได้ในเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งสั่งการให้ศูนย์สร้างทาง ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุและชิ้นส่วนสะพานเบลีย์ เครื่องจักร /ยานพาหนะ เตรียมพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานในกรณีถนน หรือสะพานขาด นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและหลังจากเกิดภัยให้ติดตามเร่งสำรวจ ตรวจสอบ รายงานความเสียหาย พร้อมข้อเสนอแนะจัดทำแผนซ่อมบูรณะฟื้นฟูสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

nt2

สำหรับสรุปสถานการณ์ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วม จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองบัวลำภู จ.มหาสารคาม จ.จังหวัดขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.อุบลราชธานี จ.มุกดาหาร และจ.ลพบุรี โดยทางหลวงถูกน้ำท่วม 18 สายทาง จำนวน 29 แห่ง การจราจรผ่านได้ 23 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ จ.มหาสารคาม  ทางหลวงหมายเลข 219 ตอน บรบือ – ยางสีสุราช ท้องที่ อ.นาเชือก กม.ที่ 30 ระดับน้ำสูง 40 -50 ซม. จ.นครราชสีมา ทางหลวงหมายเลข 2 ตอน ตาลาด – หนองแวงโสกพระ ท้องที่ อ.บัวลาย กม.ที่ 248 ระดับน้ำสูง 50 – 70 ซม. จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แห่ง

ทางหลวงหมายเลข 2248 ตอน ซำหวาย – บุญฑริก ท้องที่ อ.น้ำยืน กม.ที่ 46 – 47 ระดับน้ำสูง 50 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2248 ตอน ซำหวาย – บุญฑริก ท้องที่ อ.บุญฑริก กม.ที่ 96 – 97 ระดับน้ำสูง 50 ซม. จ.มุกดาหาร  ทางหลวงหมายเลข 2287 ตอน คลองหลวง – สานแว้ ท้องที่ อ. ดงหลวง กม.ที่ 22 ระดับน้ำสูง 100 ซม. และ จ.ลพบุรี  ทางหลวงหมายเลข 2247 ตอน จงโก – สำสมพุง ท้องที่ อ.ลำสนธิ กม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 80 ซม.

nt3

ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทางการจราจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ต้องการความช่วยเหลือ หรือ พบเหตุบนทางหลวง เช่น ต้นไม้ล้ม ทางขาด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ทุกวันฟรีตลอด 24 ชั่วโมง