กบง.เคาะราคาแอลพีจี ส.ค.คงเดิม

27 ก.ค. 2560 | 11:14 น.
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สมาคมฯไม่กังวลหลังกระทรวงพลังงานเตรียมลอยตัวราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ทั้งระบบในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ขณะที่ราคาแอลพีจีตลาดโลกยังอยู่ในช่วงขาลง จึงเป็นจังหวะที่ภาครัฐประกาศลอยตัวได้ นอกจากนี้ราคาขายปลีกแอลพีจีในประเทศคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยล่าสุดอยู่ที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม

นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเครื่องมือช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มหาบเร่ แผงลอย ให้สามารถซื้อก๊าซแอลพีจีราคาเดิม 18.13 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 300 บาทต่อถัง15 กิโลกรัม เทียบกับราคาปกติ อยู่ที่ 350 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะมีการพิจารณาดำเนินการตามมาตรการแอลพีจีเสรี โดยจะยกเลิกการประกาศราคาแอลพีจีรายเดือนที่มีราคาเดียว แต่จะมีการประกาศราคาแนะนำแอลพีจีรายภูมิภาคในแต่ละเดือนแทน

รวมทั้งการพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกแอลพีจีจากเดิมที่สำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เรียกเก็บอยู่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือประมาณ 700 บาทต่อตัน โดยกรมฯจะเสนอให้เก็บเป็นสกุลเงินบาทแทน เพื่อไม่ต้องปรับราคาขึ้นลงบ่อยครั้งตามการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน โดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกแอลพีจี เพื่อเป็นการป้องกัน ผู้ประกอบการไม่ให้ลักลอบนำแอลพีจีที่สำแดงว่าจะนำเข้ามาใช้ในประเทศ แต่กลับนำไปขายส่งออกเพื่อเอากำไรส่วนต่าง

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มโรงกลั่นฯไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐจะเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมส่งออกแอลพีจี เพราะภายหลังรัฐเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจีแล้วย่อมทำให้มีผู้ค้าแอลพีจีหลายรายนำเข้า และหากนำเข้ามากเกินความต้องการใช้ในประเทศก็อาจใช้วิธีดั๊มราคาเพื่อแข่งขันกัน ส่งผลให้แอลพีจีที่ผลิตจากโรงกลั่นฯขายไม่ได้ ต้องส่งออก แต่กลับต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมส่งออก 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ดังนั้นเห็นว่ารัฐไม่ควรเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว เพราะโรงกลั่นต้องแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ