'วิษณุ'แนะ"ยิ่งลักษณ์"ถูกอายัดทรัพย์ มีสิทธิขอทุเลาได้

27 ก.ค. 2560 | 09:09 น.
วิษณุ ยัน "ยิ่งลักษณ์"มีสิทธิขอทุเลาคดีได้หากถูกยึดทรัพย์ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ศาลพิจารณา เผยกรมบังคับคดีถอนเงินจากบัญชีแค่หลักแสนแต่ยังไม่ส่งคลัง

 

นายวิษณุ เครืองาม  รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมบังคับคดีอายัดบัญชีธนาคารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องเข้าใจก่อนว่ามีอยู่หลายคดี คดีอาญาของนักการเมืองนั้นไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะตัดสินในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ซึ่งหากศาลฎีกาฯ ตัดสินว่ามีความผิดก็จะนำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งต่อไป

ส่วนคำถามเรื่องการยึดทรัพย์ที่สื่อถามจากนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมานั้นนายกฯ คงเข้าใจว่าเป็นการยึดทรัพย์ในคดีที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งความจริงยังยึดไม่ได้จนกว่าศาลจะตัดสิน แล้วรอดูผลออกมาก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร

ในส่วนของการบังคับคดีปกครองที่พูดกันมาเป็นปีก่อนหน้านี้แล้ว จากการออกคำสั่งทางปกครองออกไปแล้วนั้นหลายคนพยายามมาถามตนว่าทำไปถึงไหนแล้ว จะยึดอะไร อย่างไรบ้างนั้น ซึ่งตนก็บอกแล้วว่าถ้าพบก็ยึดและมีอายุความ 10 ปี จึงถือเป็นคนละส่วน ถ้าพบก็ต้องดำเนินการยึดทรัพย์เลยมิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะถือว่าบกพร่อง ทั้งนี้กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ของเรื่องดังกล่าวได้ตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินบางส่วนจึงได้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกมาแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.สังหาริมทรัพย์ ได้แก้ เงินฝากอยู่ในธนาคารต่างๆ ที่ตอนนี้ตรวจพบแล้วว่ามีอยู่ 10-20 ธนาคาร รวมแล้วเป็นจำนวนเงินไม่มาก จำเป็นต้องถูกอายัดไว้ก่อน ถูกฟรีซเอาไว้ เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายจ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดมาเป็นของหลวง แต่ในกรณีผู้ต้องหารายอื่นๆก็ถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้  2.อสังหาริมทรัพย์ คือ ที่ดิน บ้าน คอนโดฯ เป็นต้น ก็ได้ถูกตรวจพบว่ามีประมาณ 37 รายการ โดยหน่วยงานเจ้าของเรื่องทราบดีว่ามูลค่าจำนวนหนึ่ง แต่ขอไม่ระบุตัวเลข ซึ่งกรมบังคับคดี ได้ประสานงานกับกรมที่ดินเพื่อขอฟรีซทรัพย์นั้นไว้เช่นกัน เพื่อไม่ให้มีการทำธุรกรรม จำหน่าย จ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดเข้ารัฐ และยังไม่ถูกนำมาขายทอดตลาด และยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นอยู่เช่นเดิม เพียงแต่กรมบังคับคดีแจ้งให้กรมที่ดินทราบว่ามีรายการใดบ้างที่ถูกตรวจพบ

[caption id="attachment_185409" align="aligncenter" width="419"] นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร[/caption]

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่าเงินในบัญชีได้ถูกอายัดและถูกถอนออกจากบัญชีไปแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า เงินที่ถูกอายัดไว้นั้นมี 16 บัญชี โดย 5 บัญชีรวมแล้วมีเงินเป็นหลักแสนบาท ซึ่งถูกกรมบังคับคดีถอนออกมาก่อนถือเป็นอำนาจตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ถูกส่งเข้าคลังทันที ทรัพย์ยังอยู่ที่กรมบังคับคดี เนื่องจากเป็นการยึดตามคำสั่งทางคดีปกครอง อย่างไรก็ตามที่เหลืออีก 11 บัญชีนั้นยังไม่มีการแตะต้องแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรวงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด จะได้รับเงินที่ถูกกรมบังคับคดีถอดออกไปนั้นกลับคืนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกันระหว่างคำตัดสินของศาลดังกล่าวในวันที่ 25 ส.ค. กับคดีแพ่ง ขณะเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดี แต่ตอนนั้นศาลไม่รับด้วยเหตุว่า ขณะนั้นยังไม่มีการยึดทรัพย์ใดๆ จึงไม่ต้องทุเลาการบังคับคดี แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการบังคับคดีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็มีสิทธิ์ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลปกครองได้ ซึ่งถือเป็นผลดีต่อนางสาวยิ่งลักษณ์เอง จากนั้นอยู่ที่ศาลปกครองจะทุเลาการบังคับคดีหรือไม่ และหากศาลปกครองสั่งทุเลาการบังคับคดีดังกล่าวแล้วทางกรมบังคับคดีก็ต้องหยุดการดำเนินการทั้งหมด ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าศาลปกครองสั่งไม่ทุเลาทางกรมบังคับคดีก็ดำเนินการต่อไปได้ตามกฎหมาย แต่ได้มีการหารือกันแล้วว่าจะยังไม่ทำอะไรอีกในช่วงนี้จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินในวันที่ 25 ส.ค.อย่างน้อยการทำเช่นนี้ได้ทำให้รู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์มีทรัพย์อะไรบ้าง อยู่ที่ใดบ้าง และมีมูลค่าเท่าใด ส่วนทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่อาจอยู่ในชื่อบุคคลอื่นทางกรมบังคับคดียังไม่เข้าไปตรวจสอบ ส่วนจะไปดำเนินการตรวจสอบเมื่อใดนั้นตนไม่ทราบ

ส่วนกรณี อาจถูกมองว่ากรมบังคับคดีใช้เวลาในการสืบทรัพย์นาน แต่เพิ่งมาสืบพบในช่วงเวลาที่ใกล้จะตัดสินคดีในวันที่ 25 ส.ค.นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน เพราะอยู่ที่ว่ากรมบังคับคดีจะสืบทรัพย์พบเมื่อใด เมื่อสืบพบก็ต้องดำเนินการโดยทันทีตามกฎหมาย ถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้กระทรวงการคลังไปแจ้งกรมที่ดิน ธนาคารต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะนัดวันอ่านคำพิพากษาในวันใด เมื่อออกมาเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร