นิสสันส่งนวัตกรรม e-Power เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าล่าสุด ร่วมงาน Thailand Industry Expo 2017
อันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมงาน ไทยแลนด์ อินดัสตรี เอ็กซ์โป 2017 (Thailand Industry Expo 2017) ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 25 - 30 กรกฎาคม ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็คเมืองทองธานี ซึ่งบริษัทได้นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์เพื่ออนาคต โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้านิสสัน อี-เพาว์เวอร์ (e-Power) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง นิสสัน ลีฟ มาจัดแสดงภายในงาน รวมไปถึงนิสสัน โน๊ต และนิสสัน อัลเมรา สปอร์ตเทค
"การเข้าร่วมงาน ไทยแลนด์ อินดัสตรี เอ็กซ์โป 2017 ของนิสสันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีรถยนต์ล่าสุดสู่ตลาดรถยนต์ของประเทศไทย โดยนิสสันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในระดับโลก และในครั้งนี้เราต้องการที่นำเสนอระบบ อี-เพาว์เวอร์ และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่นิสสันมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดของการเคลื่อนที่อัจฉริยะ "นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้" (Nissan Intelligent Mobility)"
อันตวน กล่าวเสริมว่า นิสสันได้พัฒนากลยุทธ์ด้านยานยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เข้าถึงได้และเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการขับขี่ทุกรูปแบบ นิสสัน มุ่งมั่นที่จะมีส่วนสำคัญในการแสดงความรับผิดชอบต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการทำงานร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทุกภาคส่วนในเรื่องนี้
"ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เช่น อี-เพาว์เวอร์ และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง นิสสัน ลีฟ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการขับขี่ในอนาคต ที่ต้องมีส่วนสร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงความสนุกสนานในการขับขี่"
สำหรับระบบ อี-เพาว์เวอร์ ของนิสสันนั้นได้นำเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ นิสสัน ลีฟ ที่ได้พัฒนามาจนสมบูรณ์แบบแล้ว มาปรับใช้โดยความแตกต่างของระบบ อี-เพาว์เวอร์ คือการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กเพื่อปั่นกระแสไฟป้อนกลับไปที่แบตเตอรี่เมื่อจำเป็นทำให้ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟจากภายนอก ในขณะเดียวกันก็ให้กำลัง และสมรรถนะที่เท่าเทียมกันกับ ลีฟ หมายความว่าล้อรถจะถูกขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยที่กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะถูกป้อนให้กับระบบขับเคลื่อน อี-เพาว์เวอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก เครื่องปั่นไฟ หม้อแปลง และ มอเตอร์ไฟฟ้า
“นิสสันเชื่อว่าประสบการณ์การขับขี่นั้นเป็นมากกว่าตัวรถยนต์เอง นิสสันจึงร่วมพัฒนาเครือข่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้กว้างไกลไปกว่ารถยนต์ที่เรามีอยู่ นอกจากนี้เราจะพัฒนาและนำสินค้าที่ล้ำสมัยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทั่วโลกอีกด้วย”
"การเข้าร่วมงาน ไทยแลนด์ อินดัสตรี เอ็กซ์โป 2017 ของนิสสันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีรถยนต์ล่าสุดสู่ตลาดรถยนต์ของประเทศไทย โดยนิสสันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในระดับโลก และในครั้งนี้เราต้องการที่นำเสนอระบบ อี-เพาว์เวอร์ และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่นิสสันมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดของการเคลื่อนที่อัจฉริยะ "นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้" (Nissan Intelligent Mobility)"
อันตวน กล่าวเสริมว่า นิสสันได้พัฒนากลยุทธ์ด้านยานยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เข้าถึงได้และเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการขับขี่ทุกรูปแบบ นิสสัน มุ่งมั่นที่จะมีส่วนสำคัญในการแสดงความรับผิดชอบต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการทำงานร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทุกภาคส่วนในเรื่องนี้
"ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เช่น อี-เพาว์เวอร์ และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง นิสสัน ลีฟ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการขับขี่ในอนาคต ที่ต้องมีส่วนสร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงความสนุกสนานในการขับขี่"
สำหรับระบบ อี-เพาว์เวอร์ ของนิสสันนั้นได้นำเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ นิสสัน ลีฟ ที่ได้พัฒนามาจนสมบูรณ์แบบแล้ว มาปรับใช้โดยความแตกต่างของระบบ อี-เพาว์เวอร์ คือการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กเพื่อปั่นกระแสไฟป้อนกลับไปที่แบตเตอรี่เมื่อจำเป็นทำให้ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟจากภายนอก ในขณะเดียวกันก็ให้กำลัง และสมรรถนะที่เท่าเทียมกันกับ ลีฟ หมายความว่าล้อรถจะถูกขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยที่กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะถูกป้อนให้กับระบบขับเคลื่อน อี-เพาว์เวอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก เครื่องปั่นไฟ หม้อแปลง และ มอเตอร์ไฟฟ้า
“นิสสันเชื่อว่าประสบการณ์การขับขี่นั้นเป็นมากกว่าตัวรถยนต์เอง นิสสันจึงร่วมพัฒนาเครือข่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้กว้างไกลไปกว่ารถยนต์ที่เรามีอยู่ นอกจากนี้เราจะพัฒนาและนำสินค้าที่ล้ำสมัยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทั่วโลกอีกด้วย”