ศาลปกครองสั่งคลัง-กรมบังคับคดี แจงยึดทรัพย์”ปู”ใน 15 วัน

ศาลปกครองสั่งคลัง-กรมบังคับคดี แจงเหตุยึดบัญชีเงินฝากอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ใน 15 วัน ก่อนจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายเทอดพงศ์ คงจันทร์ รองโฆษกศาลปกครอง กล่าวถึงกรณีที่ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาบังคับการอายัดทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากกรณีที่กระทรวงการคลังส่งรายการบัญชีธนาคารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้กรมบังคับคดีทำการอายัดทรัพย์ ว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ฟ้องคดี ยื่นขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว จากการถูกกระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องคดี ส่งบัญชีให้กรมบังคับคดีอายัดเงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงเทพ 7 บัญชี โดยไม่ได้แจ้งยอดเงินนั้น ศาลได้พิจารณาคำร้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว มีคำสั่งให้กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องคดี และกรมบังคับคดีชี้แจงรายละเอียดต่อศาลภายใน15 วัน โดยมีการส่งหมายไปตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นายเทอดพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ให้กระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีชี้แจง จะเป็นประเด็นถึงเหตุผลที่ไปยึดบัญชีเพิ่มเติมดังกล่าว พร้อมความจำเป็นอย่างไรที่จะต้องทำการยึดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มา รวมถึงรายละเอียดกระบวนการในการยึดทรัพย์ของกรมบังคับคดี ซึ่งคาดว่าทั้งกระทรวงการคลังและกรมบังคับคดี จะรวบรวมข้อมูลส่งมาภายในช่วงกลางเดือนสิงหาคมตามกำหนด 15 วัน หลังจากได้หมายศาล

โดยต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมการสืบทรัพย์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ส่งข้อมูลรายการทรัพย์สินเป็นสมุดเงินฝากธนาคาร 12 บัญชีของนางสาวยิ่งลักษณ์แก่กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เพื่อไปดำเนินการต่อตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อจากนี้เป็นของกรมบังคับคดีที่จะไปดำเนินการต่อ โดยในส่วนของกรรมการสืบทรัพย์ หากได้รับข้อมูลทรัพย์สินของนางสาวยิ่งลักษณ์จากหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้ประสานงานขอข้อมูลไปเพิ่มเติมจะแจ้งกรมบังคับคดีต่อไป โดยกระบวนการนี้มีกรอบเวลา 10 ปี

ต่อมาทีมทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ขอศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้จ่ายสินไหมทดแทน 3.5 หมื่นกว่าล้านบาท จากที่โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลทุเลาคำสั่งการอายัดทรัพย์สินของกระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีครั้งนี้ไว้ก่อน เพื่อรอผลการพิพากษาของศาลปกครอง เป็นการยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวครั้งที่สอง โดยในครั้งแรกศาลปกครองสั่งยก เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีการยึดอายัดทรัพย์เกิดขึ้นในเวลานั้น