กรุงเทพติดบัญชีเสี่ยงน้ำท่วมหนัก

25 ก.ค. 2560 | 13:42 น.
หลายเมืองในเอเชียติดโผ เมืองชายฝั่งที่จะได้รับความเสียหายหนักจากภาวะน้ำท่วมที่จะเกิดบ่อยครั้งขึ้น อันเป็นผลกระทบจากสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง โดยมีกรุงเทพติดอยู่ใน 20 เมืองเสี่ยงของโลกด้วย

วันนี้ (25 ก.ค. 60) – ในรายงานที่ชื่อว่า “ความเสี่ยงของภูมิภาค : หลายมิติของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในเอเชีย และ แปซิฟิค” ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำร่วมกันระหว่างธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และสถาบันวิจัยผลกระทบจากสภาพอากาศแห่งพอตสดัม (พีไอเค) ระบุว่า จากผลสำรวจ 136 เมืองท่าชายฝั่งทั่วโลกนั้น พบว่ามี 20 เมืองที่จะได้รับความเสียหายมากที่สุดจากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น ในระหว่างปี 2005-2050 โดยความเสียหายจะมีมูลค่าเฉลี่ยสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

โดยใน 20 เมืองที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดนั้นมีกรุงเทพมหานคร ของประเทศไทยติดอยู่ด้วย นอกเหนือจาก เมืองกวางโจว,เซี๋ยเหมิน, เสิ่นเจิ้น, ชานเจียง และเทียนจิน ของจีน, ส่วนในอินเดียมีเมือง สุรัต มุมไบ เชนไน และกัลกัตตา , โฮจิมินห์ ซิตี้ ของเวียดนาม, จาการ์ตาของอินโดนีเซีย และ นาโกยา ของญี่ปุ่น

ในรายงานดังกล่าว ระบุว่า เอเชีย จะมีจำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะน้ำท่วม และยังจะได้รับผลกระทบจากปัญหา สตอร์ม เสิร์จ ด้วย โดยเฉพาะในอินเดีย บังกลาเทศ และอินโดนีเซีย

โดยเมื่อสิ้นสุดศตวรรษนี้ จะมีประชาชนที่อยู่อาศัยตามชายฝั่งถึง 130 ล้านคน ในอินเดีย บังกลาเทศ และปากีสถาน ที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และสตอร์ม เสิร์จ ซึ่งในภูมิภาคอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มากที่สุดด้วย

นอกจากนั้นแล้ว รายงานของเอดีบี และพีไอเค ยังชี้ว่า อุณหภูมิในทวีปเอเชีย จะสูงขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ในอนาคตได้ และนั่นจะทำให้เกิดสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงที่รุนแรงมากขึ้น และจะเกิดน้ำท่วมที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาการมากขึ้นตามไปด้วย และในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

โดยปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เอเชียต้องประสบกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงนั้น มาจากที่มีการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลเป็นจำนวนมหาศาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรยากาศโลก และทำให้เกิดปัญหาของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างชัดเจน