สบส.หนุนอสม. ลดการตีตราผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโรคเอดส์

25 ก.ค. 2560 | 10:43 น.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในชุมชนดีเด่นระดับชาติ ปี 2560 ของ อสม.สิงห์บุรี ลดการตีตราผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ สร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในชุมชนให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เร่งให้ความรู้แก่นักเรียน เยาวชน เรือนจำและสถานพินิจ เน้นหนัก 3 กลุ่มหลัก ชายรักชาย กลุ่มหญิงบริการ และกลุ่มวัยรุ่น ล่าสุด ปี 2558 จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 6,759 ราย อายุระหว่าง 15 – 45 ปี พบมากในกลุ่มชายรักชาย

นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ( กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส.ได้สร้างความเข้มแข็งระบบสุขภาพภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ ลดปัญหาการเจ็บป่วยและการเสียชี วิต โดยเฉพาะจากโรคเอดส์ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีสาเหตุหลักจากการเปลี่ยนคู่ นอนบ่อยหรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ ป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อเอช ไอ วี ในกลุ่มชายรักชายมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มรักต่างเพศ และสาเหตุรองลงมาได้แก่ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด และการติดต่อจากแม่สู่ลูกตามลำดับ ซึ่งการติดเชื้อเอชไอวี ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจและการดำรงชีวิตอยู่ในสังคม เนื่องจากสังคมยังไม่ยอมรับผู้ติดเชื้อเท่าที่ควร ปัจจุบันพบว่า ในปี 2558 มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1 ล้าน 5 แสนราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 6,759 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงาน ช่วงอายุ 15 – 45 ปี พบมากในกลุ่มชายรักชาย และกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่ มแรงงานข้ามชาติ

นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวต่อว่า กรม สบส.ได้ดำเนินการสร้างความเข้มแข็งในภาคประชาชนโดยการส่งเสริม สนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2560 นี้ มีอสม.ที่ได้รับเลือกและได้รับรางวัล อสม.ดีเด่นระดับชาติ สาขาการป้องกันและแก้ไขปั ญหาเอดส์ในชุมชนได้แก่ นายชุติมันต์ โพธิยา อายุ 51 ปี ทำหน้าที่ อสม.มา 8 ปี รับผิดชอบและดูแลชุมชนวัดพรหมสาคร เขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยพบว่า ในชุมชนมีผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ถูกตีตรา การขับไล่ออกจากครอบครัวและชุมชน รวมถึงมีการแพร่ ระบาดของโรคมากขึ้น จึงหันมาดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์อย่างทุ่มเทและอย่างจริงจัง

การดำเนินงานของอสม.ชุติมันต์ โดยใช้ศักยภาพการเป็นวิทยากรให้ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้เข้าถึงและค้นหาผู้ติดเชื้ อในกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มชายรักชาย กลุ่มหญิงบริการและกลุ่มวัยรุ่น และเป็นตัวกลางเชื่อมความสัมพั นธ์ในชุมชนได้ดี มีการสื่อสารให้ประชาชนทุกกลุ่ มวัยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ ยวกับโรค โดยถ่ายทอดความรู้เรื่ องโรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคอนามัยเจริญพันธุ์ การใช้ถุงยางอนามัย ข้อปฏิบัติในการใช้ชีวิตร่วมกั บผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ รวมถึงยาเสพติดสู่นักเรียน เยาวชนในสถานศึกษา โรงเรียนขยายโอกาส สถานพินิจและเรือนจำในจังหวัดสิ งห์บุรี ซึ่งดำเนินงานแบบการมีส่วนร่ วมของเครือข่าย ได้แก่โรงพยาบาลสิงห์บุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลและประธานชุมชน ร่วมเป็นจิตอาสาให้ความรู้ และเป็นจุดกระจายถุงยางอนามัยในชุมชนซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2539

ในกลุ่มผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ ในเขตอำเภอเมืองสิงห์บุรี มีจำนวน 642 คน ได้ดำเนินการตามแนวทาง คือเน้นให้คำปรึกษา แนะนำการใช้ยาต้านไวรัสและโรคฉวยโอกาส ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาทิ วัณโรค โรคปอดติดเชื้อ เชื้อราในสมอง เป็นต้น ซึ่งผลจากการติดตามเยี่ยมบ้าน พบว่า นักเรียนและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ถุงยางอนามัย และจากการการประเมินความเสี่ยงในกลุ่มเสี่ยงผ่านกิจกรรมลูกปัดวัดความเสี่ยงและกล่องพลิกชีวิต มีพฤติกรรมทางเพศที่ เหมาะสมและตระหนักถึงการป้องกันมากขึ้น ในส่วนของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเกิดการยอมรับในชุมชน มีการทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงการสร้างความเข้าใจถึงโรคดังกล่าวว่า ไม่สามารถติดต่อด้วยการสัมผัสหรือการคลุกคลีกับผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมี ความสุขมากขึ้น