ธปท.จับตาเงินบาทใกล้ชิด เหตุแข็งค่า 7% เร็วกว่าเพื่อนบ้าน

ธปท.ยันเงินบาทแข็งค่าขึ้น 7% เหตุเงินดอลลาร์อ่อนค่า-เงินทุนไหลเข้า สะท้อนตลาดรับผันผวนระยะสั้น ชี้ เฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด แนะผู้ประกอบการป้องกันค่าเงิน ด้านศูนย์วิเคราะห์ทีเอ็มบี เผยค่าเงินเช้านี้เปิดตลาด 33.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าเล็กน้อย หลังจากเงินดอลลาร์เด้งกลับมาแข็งค่าจากจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่าประมาณ 7% จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯเป็นสำคัญ อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังมีเงินลงทุนโดยตรงของภาคธุรกิจที่ไหลเข้ามาเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมด้วย โดยแม้ในภาพรวมการแข็งค่าของเงินบาทจะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของเงินสกุลภูมิภาค แต่ระยะหลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว สะท้อนปฏิกิริยาของตลาดที่อ่อนไหวกับความผันผวนในระยะสั้นที่มากเกินไป

ดังนั้น ธปท. จะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ด้านภาคเอกชนควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับกับความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าเล็กน้อยจากสิ้นวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และเด้งขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี โดยดัชนีดอลลาร์แกว่งตัวเข้าใกล้ระดับ 94.00 จุด หลังตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมแตะระดับ 53.2 จุด และ 54.2 จุด มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี ความผิดหวังกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความกังวลว่าธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ในปีนี้ จะยังคงกดดันค่าเงินดอลลาร์ต่อ

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในช่วงวันนี้อยู่ที่ระดับ 33.38-33.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ