ศาลสั่งจำคุกแกนนำพธม.8เดือน คดีบุกทำเนียบ

24 ก.ค. 2560 | 06:57 น.
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ ลดโทษ เหลือจำคุก คนละ 8 เดือน 6 แกนนำ พันธมิตรฯบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551 เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โทษจำคุกไม่รอลงอาญา ทนายเตรียมยื่นประกันคนละแสนสู้ศาลฎีกา

Protestors scale the fence outside Thailand ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น.วันที่ 24 ก.ค.24560 ศาลอออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551 หมายเลขดำ อ.4925/55 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้เสียทรัพย์

กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค2551 จำเลย ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฯ (ขณะนั้น)กับพวกได้ปราศรัยชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพื่อกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ลาออก แล้วเข้าปิดล้อมควบคุมทำเนียบรัฐบาล ห้ามข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าปฏิบัติงาน ทำลายทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหาย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ

Protestors gather inside the compound of Thailand คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจึง พิพากษาจำคุกคนละ 3 ปี คำเบิกความจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้1ใน3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา.

จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการฝ่ายสถานที่ สำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เข้าเบิกความถึงรายละเอียดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งการกระทำของจำเลยทั้งหก ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฯ และกลุ่มผู้ชุมนุม ที่บุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล โดยนำรถบรรทุก 6 ล้อตั้งเป็นเวทีปราศรัย หน้าบริเวณสนามหญ้าทำเนียบรัฐบาล ตัดโซ่คล้องประตู รวมทั้งผลักดันแผงเหล็กกั้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดไว้ เพื่อรักษาความปลอดภัย ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบรดน้ำ หญ้าในสนามตาย ระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย

[caption id="attachment_184192" align="aligncenter" width="503"] Bangkok riot police look on from inside the compound of Thailand Bangkok riot police look on from inside the compound of Thailand's Government House Tuesday, Aug. 26, 2008, in Bangkok, Thailand. Thai Prime Minister Samak Sundaravej, his own offices besieged by thousands of demonstrators, called Tuesday for people to end protests that aimed to topple him from power. (AP Photo/Sakchai Lalit)[/caption]

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของพวกจำเลยนั้น มีความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานบุกรุกฯนั้นชอบแล้ว ส่วนที่พวกจำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ โดยอ้างว่า พวกจำเลยเป็นผู้มีการศึกษา มีสถานะทางสังคม และได้ทำงานเพื่อสังคม ทั้งไม่เคยต้องโทษในคดีอาญามาก่อน ซึ่งกับการชุมนุมนั้นก็เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ การที่จำเลยจะใช้สิทธิเสรีภาพนั้นก็จะต้องไม่กระทบต่ออำนาจหน้าที่ผู้อื่น แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของพวกจำเลยมิได้เพื่อเป็นประโยชน์แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ตนเอง จึงเห็นควรพิพากษาลงโทษให้เหมาะสมกับพฤติการณ์

ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ โทษจากเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี เหลือโทษจำคุกคนละ 1 ปี โดยลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 6 ไว้คนละ 8 เดือน และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โทษจำคุกจึงไม่รอลงอาญา

ภายหลังนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า เตรียมยื่นหลักทรัพย์คนละไม่เกิน 1แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว 5 แกนนำพันธมิตรฯ ระหว่างฎีกา ส่วนนายสนธิ ไม่ได้ยื่นประกันเนื่องจากถูกจำคุกในคดีอื่นก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 24 ก.ค.24560 ) อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน เดินทางมาศาล ยกเว้นนายสนธิที่ถูกเบิกตัวจากเรือนจำ โดยมีประชาชนกว่า 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจจนล้นห้องพิจารณา