ตลาดบะหมี่ฟื้นรับกำลังซื้อ ‘ไวไว’ทุ่มงบปรับโฉม-‘มาม่า’เพิ่มเครื่องอบผลิตสินค้าใหม่

26 ก.ค. 2560 | 07:24 น.
ไวไว เตรียมออกเส้นหมี่ถ้วยชิงตลาด 1,600 ล้าน หลังทุ่มงบ 20 ล้านปรับโฉมบะหมี่รสต้มยำกุ้งนํ้าข้น ด้านมาม่า เตรียมงบลงทุน 100-200 ล้าน ซื้อเครื่องอบข้าว ผลิตสินค้าใหม่ลุยตลาดต่างประเทศ หวังปีหน้าทำยอดขายรวม 2,000 ล้าน

ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.63 หมื่นล้านบาท เติบโตในอัตรา 1.49% แบ่งเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซองสัดส่วน 67% เติบโต 0.1% ชนิดถ้วย 26% เติบโต 6% เส้นหมี่ ก๋วยเตี๋ยว และวุ้นเส้น สัดส่วน 6% ตลาดติดลบ 4.3% และมีบะหมี่นำเข้าสัดส่วน 1% ซึ่งในปีนี้สภาพตลาดมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น จากภาวะกำลังซื้อที่ฟื้นตัว ประกอบกับการทำตลาดของผู้ประกอบการ ที่พยายามออกมากระตุ้นยอดขายให้เติบโต ภาพรวมตลาดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 จึงเห็นทิศทางการเติบโตที่มากกว่าช่วงปีเดียวกันของปีที่ผ่านมา

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทโรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ทิศทางตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทได้เตรียมกิจกรรมการตลาดและการออกสินค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องโดยเตรียมออกสินค้าใหม่เป็นเส้นหมี่ชนิดถ้วย 2 รสชาติ ได้แก่ รสปรุงรส และรสหมูสับ จำหน่ายในราคาถ้วยละ 15บาท พร้อมกับการทำกิจกรรมการตลาด โดยเน้นบีโลว์เดอะไลน์ และกิจกรรมณ จุดขาย

[caption id="attachment_183511" align="aligncenter" width="335"] ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทโรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทโรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด[/caption]

โดยในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อทำตลาดผ่านกิจกรรมต่างๆ แบบ 260 องศา อาทิ จัดชงชิมสินค้าฟรี,โปรโมชันการแจกของแถม, สนับสนุนงานคอนเสิร์ตและ?ออนทัวร์ไปตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อมอบความสนุก ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและกระตุ้นการรับรู้ในแบรนด์ ซึ่งมีเป้าหมายผลักดันยอดขายเติบโตในอัตราไม่ตํ่ากว่า 3% ส่วนช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายเติบโตในอัตราประมาณ 2% ถือว่ามีทิศทางที่ดีและน่าจะเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมตลาด ซึ่งยอดขายหลักของบริษัทจะมาจาก?กลุ่มเส้นบะหมี่สัดส่วน 70% และกลุ่มเส้นหมี่สัดส่วน 30% ล่าสุด บริษัทยังได้ทุ่มงบประมาณ 20 ล้านบาทปรับรูปแบบแพ็กเกจจิ้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว รสต้มยำกุ้งนํ้าข้น สูตรพริกเผา” ให้ทันสมัยมากขึ้น

“ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาจไม่โตมากนัก แต่แบรนด์ไวไวยังเติบโตได้มากกว่าตลาด แม้อาจพบปัญหา เนื่องจากแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและตลาดอาหารพร้อมทานนำเข้ามีเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะก็ตาม บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การเน้นไปที่รสชาติให้เข้มข้น พร้อมการนำเสนอสินค้า ที่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งในกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น โดยตั้งเป้าในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของรสชาติต้มยำกุ้งขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 5% ขณะที่ผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งมากถึง 60%”

ด้านนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวแปรรูป แบรนด์มาม่า กล่าวว่าปัจจุบันตลาดเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซอง มีมูลค่าตลาดกว่า 1,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มโจ๊กและข้าวต้มมีมูลค่าตลาดประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์มาม่ามีส่วนแบ่งประมาณ 10% ตลาดยังมีโอกาสสร้างการเติบโตได้อีกจำนวนมาก ส่วนผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80%

ขณะที่ทิศทางธุรกิจนับจากนี้ ต้องการขยายตลาดกลุ่มข้าวให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่ากลุ่มข้าวต้มสำเร็จรูปน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยในปีหน้าคาดว่าจะทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้เตรียมลงทุน 100-200 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องอบข้าวมาใช้ในการผลิตสินค้าใหม่ สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์จากข้าวถือว่าเป็นเทรนด์สุขภาพที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,281 วันที่ 23 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560