กกต.ยื่นศาลรธน.ตีความร่างพ.ร.ป.กกต.แล้ว

21 ก.ค. 2560 | 10:00 น.
กกต.ยื่นศาลรธน.ตีความร่างพ.ร.ป.กกต.แล้ว “ประวิช” ชี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ไม่มีปัญหาในอนาคต ระบุ ไม่ติดใจปมเซตซีโร่ ยัน

1 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ผู้แทนสำนักกฎหมายและคดี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นำคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (1) ว่า 2 มาตราของพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.คือ มาตรา 26 การตัดอำนาจ กกต.แต่ละคนในการระงับยับยั้งการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตในหน่วยหรือเขตเลือกตั้งที่ไปพบ

และมาตรา 27 เรื่อง กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้เอง ต้องมอบให้ส่วนราชการ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ เข้าข่ายไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้วหลังจากที่ในช่วงบ่ายกกต.ทั้ง5คนลงนามหนังสือคำร้องครบถ้วนแล้วโดยคาดว่าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะนำคำร้องดังกล่าวเข้าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อพิจารณาว่าคำร้องดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาหรือไม่

[caption id="attachment_183469" align="aligncenter" width="401"] นายประวิช รัตนเพียร นายประวิช รัตนเพียร[/caption]

ด้านนายประวิช รัตนเพียร กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า การที่กกต.ยื่นคำร้องดังกล่าว เพราะเห็นว่าอาจมีปัญหาทางข้อกฎหมายในอนาคตจึงจำเป็นต้องยื่นให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนเรื่องเซตซีโร่ กกต.นั้นยืนยันว่า กกต.ไม่ติดใจเพราะกระบวนการเสร็จสิ้นไปแล้ว อีกทั้ง กกต.ชุดนี้รับทราบดีว่า จะต้องอยู่รักษาการเพื่อเตรียมงานต่างๆก่อนส่งไม้ต่อให้ กกต.ชุดใหม่

“การยื่นศาลรัฐธรรมนูญเป็นการส่งเฉพาะเรื่องที่เห็นว่าเป็นปัญหาทางข้อกฎหมาย ถ้าไม่ทำความเห็นไว้ตรงนี้ แล้วเกิดมีปัญหาในอนาคตจะกลายเป็นว่า กกต.ไม่ทักท้วง ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร จะรับคำร้องหรือไม่รับคำร้อง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ กกต.ถือว่า ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แล้ว เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอย่างไร เราก็เคารพ เพราะเราไม่ได้ต้องการยื้อโรดแมปการเลือกตั้ง หรือทำเพื่อให้ กกต.ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ต่อไป ขอย้ำว่า เราไม่ติดใจว่าจะอยู่ หรือไม่ เพราะเกมส์มันโอเวอร์แล้ว”

ส่วนที่มีข่าวว่า กกต.จะยื่นเรื่องผ่านทางนายกรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่า ไม่มีอย่างแน่นอน เพราะ กกต.ไม่เคยมีมติว่า จะส่งเรื่องผ่านช่องทางดังกล่าว