วิชันบิ๊ก‘ทีเส็บ’คนใหม่ บูม‘ไมซ์’สร้างกลไกพัฒนาศก.4.0

26 ก.ค. 2560 | 07:16 น.
เป้าหมายการขับเคลื่อนรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ (มีตติ้ง อินเซนทีฟ คอนเวนชัน เอ็กซิบิชัน) ของผู้อำนวยการทีเส็บคนใหม่ ไม่เพียงผลักดันรายได้ให้ประเทศกว่า 1.74 แสนล้านบาท ในปีงบประมาณ 2561 ทีเส็บ ยังเป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมให้ธุรกิจไมซ์ มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย อ่านได้จากสัมภาษณ์นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ

++5 เป้าหมายยกเครื่องทีเส็บ
ด้วยความที่คุณ “จิรุตถ์” เป็นลูกหม้อของทีเส็บมาถึง 14 ปี นับจากเริ่มเข้ามาทำงาน ตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งเป็นคนที่ 4 ที่เข้ามาในช่วงเริ่มต้นจัดตั้งองค์กรอีกต่างหาก ทั้งยังมีบทบาทในการผลักดันหลายโครงการในช่วงหลายยุคที่ผ่านมา อาทิ โครงการปิดทองหลังพระ, ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ, การทำไมซ์เลน ครั้งแรกที่สนามบิน ดังนั้นเมื่อเขาได้รับเลือกให้เข้ามานั่งเก้าอี้คุมการบริหารงานสูงสุดในองค์กร ก็ทำให้สามารถสานต่อการทำงานได้ทันที

[caption id="attachment_183276" align="aligncenter" width="335"] จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา[/caption]

“วิสัยทัศน์ในการทำงานของผมคือ คิดว่าทีเส็บต้องเป็น Seed หรือเมล็ดพันธุ์ ของอุตสาหกรรมไมซ์ ที่เราต้องวางรากฐานให้ธุรกิจนี้เติบโตงอกงาม ใช้ไมซ์เป็นกลไกพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่แค่มาทำหน้าที่นี้ในฐานะผอ.ทีเส็บเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์มากกว่า”

บทบาทของทีเส็บ จึงต้องทำอะไรที่มากขึ้นกว่าเมื่อ 14 ปีก่อน ที่เราวางเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการจัดงานด้านไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งวันนี้เราก็เป็นผู้นำไมซ์ในอาเซียนแล้วหลายโครงการ อาทิ การสร้างมาตรฐานสำหรับสถานที่จัดงานไมซ์ (MICE Venue Standard) ที่เราทำขึ้น มาก็มีการใช้กันในอาเซียน หรือแม้แต่การจัดงานเอ็กซิบิชันระดับนานาชาติ ไทยก็มีสเกลการจัดงานที่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอยู่แล้ว อีกทั้งการจัดงานในหลายๆ งาน อย่างเรื่องพลังงาน อุตสาหกรรมผู้จัดงานของไทยก็ได้รับการยอมรับในระดับเอเชีย

ดังนั้นเป้าหมายของเราจากนี้ จึงต้องเน้นขับเคลื่อนการทำงานใน 5 เรื่องหลักให้เห็นผลให้ได้ ได้แก่ 1.ต้องการยกระดับให้ไทยเป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลก(Global Leader) 2.เป็นผู้นำการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในภาครัฐและเอกชน ซึ่งทีเส็บอยากผลักดันให้เกิดการจัดตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านการค้า และบริการอุตสาหกรรม ไมซ์ ที่เป็นวันสต็อป เซอร์วิส สำหรับไมซ์ 3.เป็นผู้นำอุตสาหกรรมไมซ์ กระจายรายได้สู่ภูมิภาค(โดเมสติก) 4.มีระบบอินเทลลิเจนต์ เพื่อสนับสนุนและยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน และ 5.เป็นองค์กรที่มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล

MP26-3281-A ++หนุนยุทธศาสตร์ชาติ20ปี
วิสัยทัศน์ที่เราต้องทำต่อไป คือ ทำให้ทีเส็บ เป็นองค์กรหลัก ในด้านไมซ์ ที่พัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรม เพื่อความเจริญและกระจายรายได้ ซึ่งก็อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นั่นหมายถึง เราต้องใช้ไมซ์เป็นเครื่องมือเชิงรุกในการส่งเสริมธุรกิจ แลกเปลี่ยนการค้าเป็นหลัก โดยมีท่องเที่ยวเป็นผลพลอยได้ อาทิ การใช้คอนเฟอเรนซ์ มาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจแบบ 4.0 ซึ่งมีอุตสาหกรรมเป้าหมายตามไทยแลนด์ 4.0 อาทิ กลุ่มอาหาร เกษตร ชีวภาพ กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ กลุ่มเครื่องมือ อุปกรณ์อัจฉริยะ กลุ่มดิจิตอล ปัญญาประดิษฐ์ กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ แฟชั่น บันเทิง วัฒนธรรม

รวมไปถึงการกระจายรายได้ไมซ์ในพื้นที่มีศักยภาพที่มีการเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ การกระจายรายได้ในเมืองไมซ์ซิตี เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่

ทั้งยังจะประสานงานกับภาครัฐ สร้างงานไมซ์ใหม่ๆ และยกระดับให้เกิดการจัดงานใหม่ๆในพื้นที่ไมซ์ซิตีเพิ่มขึ้น เช่น การจัดงานลานนา เอ็กซ์โป สมัยก่อนเป็นแค่งานระดับจังหวัด แต่เราก็ไปช่วยพัฒนาการจัดงาน ซึ่งก็ทำให้เกิดการซื้อขายแบบบีทูบี ที่ท้องถิ่นสามารถขายงานหัตถกรรม งานฝีมือกันที่เป็นล็อตใหญ่ๆ มีมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท

ผมอยากให้เกิดงานแบบนี้ในจังหวัดอื่นๆ อย่างจ.ขอนแก่น ก็มองว่างานผ้าไหมน่าจะทำได้ ซึ่งการจะทำในเรื่องเหล่านี้ ทีเส็บจะต้องทำเรื่องของมาร์เก็ต อินโนเวชัน โดยมีโครงการจะทำบิ๊ก ดาต้า เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆด้านไมซ์ที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายให้มารวมอยู่ในศูนย์ข้อมูล ที่ขึ้นตรงกับผม เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

++ปี 61ดันรายได้1.74 แสนล.
ส่วนการขับเคลื่อนรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ในปีงบประมาณ 2561 ที่วางไว้ 1.74 แสนล้านบาท ทั้งจากผู้เดินทาง กลุ่มไมซ์ต่างชาติและในประเทศ(ตารางประกอบ) สิ่งที่เราต้องทำคือ การรักษาตลาดเดิม ควบคู่ไปกับการเพิ่มตลาดใหม่ ซึ่งปีที่แล้วเราทำตลาดลูกค้าจีน กลุ่มใหญ่ๆ เข้ามาจัดสัมมนาในไทย ปีนี้จะเน้นทำตลาดอินเดียเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีงบในการจัดอีเวนต์ต่างๆ สูงมาก และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนหลายร้อยคน

การเน้นกลุ่มตลาดเอเชีย อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น กลุ่มโอเชียเนีย ซึ่งในต่างประเทศทีเส็บ ถือว่ามีตัวแทนที่ทำงานให้ทีเส็บที่เข้มแข็ง เพราะการตั้งตัวแทนของเรา จะเป็นบริษัท ไม่ใช่เป็นบุคคล รวมไปถึงการร่วมมือกับศูนย์แสดงสินค้าในต่างประเทศ อาทิ ศูนย์แสดงสินค้าโคโลญ เมสซี่ จากประเทศเยอรมนี เข้ามาจัดงานในไทย ซึ่งเขาก็สนใจงานเกี่ยวกับด้านพลังงาน

สำหรับการสนับสนุนเงิน ในการจัดงานด้านไมซ์ให้แก่ภาคเอกชนนั้น ต่อไปทีเส็บ จะมีการรีวิวรูปแบบการสนับสนุนให้เหมาะสม โดยจะเจาะเซ็กเมนต์ให้ชัดเจนมากขึ้น อาทิ หากเป็นงานเอ็กซิบิชันขนาดใหญ่ ผู้จัดงานอยากจะให้ทีเส็บสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ให้เป็นหลัก เช่น การทำบิลบอร์ดหน้าสนามบิน ขณะที่งานขนาดกลาง ก็ต้องการให้ทีเส็บติดต่อหอการค้าต่างประเทศให้มากกว่า เป็นต้น และทีเส็บก็จะดึงบีโอไอเข้ามาร่วมทำงานกับเรามากขึ้น

ขณะที่การจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในช่วง 3 ปีนี้ อาทิ งาน 2017 PCMA Global Professional Conference - Asia Pacific ในเดือนสิงหาคม ที่กรุงเทพฯ งาน UIA’s Associations Roundtable Asia-Pacific 2017 เดือนกันยายนนี้ ที่ จ.เชียงใหม่ งาน IT&CM Asia & CTW Asia Pacific 2017 เดือนกันยายนนี้ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานไมซ์เทรดโชว์สำคัญของภูมิภาคเอเชียที่ไทยเป็นเจ้าภาพต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16 งาน SIGGRAPH Asia 2017 เดือนพฤศจิกายนนี้ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานประชุมสัมมนาและนิทรรศการด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกและแอนิเมชันของกลุ่มประเทศทั่วโลก และในปี 2562 ยังมีอีก 2 งานใหญ่ที่ไทยคว้าสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพมาแล้ว ได้แก่ การประชุมของ UFI The Global Association of the Exhibition Industry และ SITE Global Conference 2019 งานประชุมระดับโลกของหน่วยงานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล

ในด้านของโดเมสติก ไมซ์ ผมมองว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องขยายพื้นที่ไมซ์ ซิตี เพิ่มขึ้นกว่าที่มีอยู่ เพราะไม่ใช่ทุกเมืองที่จะมีศักยภาพทางกายภาพที่รองรับตลาดไมซ์ได้เต็มรูปแบบ แต่เราสามารถเข้าไปสนับสนุนเรื่องของไมซ์ในประเทศได้ จากจุดเด่นของแต่ละเมืองที่มีอยู่ เช่น หนองคาย ก็เป็นเรื่องของยูนิค โฮเต็ล ส่วนหัวหิน ก็กำลังจะเป็นอินเซนทีฟ ซิตี เป็นต้น

ทั้งหมดล้วนเป็นทิศทางการทำงานของผอ.ทีเส็บคนใหม่ที่จะเกิดขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,281 วันที่ 23 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560