หอการค้ามะกันชี้จุดเสียเปรียบ ก.ม.จีนยังปกป้องบริษัทท้องถิ่น

25 ก.ค. 2560 | 07:50 น.
หอการค้าอเมริกัน (AmCham) ในนครเซี่ยงไฮ้ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทสมาชิกในประเทศจีนเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ในบรรดา 426 บริษัทอเมริกันที่ตอบคำถามการสำรวจ 73.5% ระบุว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา (2559) ก็จริง แต่ก็ยังมีอุปสรรคหลายประการในการแข่งขันในตลาดจีน โดยบริษัทส่วนใหญ่เรียกร้องขอโอกาสที่จะสามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรม และขอให้รัฐบาลจีนยกเลิกกฎระเบียบที่สร้างความได้เปรียบให้กับบริษัทท้องถิ่น

รายงานประจำปีของ AmCham สะท้อนผลการสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 11 เมษายน-7 พฤษภาคม 2560 เนื้อหาในภาพรวมชี้ว่า เศรษฐกิจในปี 2559 นั้นดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจจีนยํ่าแย่ แต่ถึงกระนั้น ยังคงมีอุปสรรคมากมายและรัฐบาลจีนจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามในอีกหลายด้านเพื่อสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่เป็นธรรมและเสมอภาคสำหรับบริษัทต่างชาติ

ในส่วนที่เป็นปัจจัยบวกอย่างเห็นได้ชัด คือ ความพยายามของรัฐบาลจีนที่เพิ่มการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ และการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มส่งผลขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมนับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ทำให้สถานภาพทางเศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เป็นปัจจัยลบในสายตาบริษัทอเมริกัน (ในจีน) คือ นโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ เช่น นโยบาย Made in China 2025 ที่พุ่งเป้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการผลิตภายในประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการควบรวมกิจการในท้องถิ่นเพื่อสร้าง “national champions” หรือบริษัทที่มีสมรรถนะในการแข่งขันระดับชาติ

[caption id="attachment_183179" align="aligncenter" width="503"] การประชุมเศรษฐกิจทวิภาคี (U.S.-China Comprehensive Economic Dialogue: CED) โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา การประชุมเศรษฐกิจทวิภาคี (U.S.-China Comprehensive Economic Dialogue: CED) โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา[/caption]

นโยบายเหล่านี้ ทำให้บริษัทอเมริกันที่เป็นสมาชิก AmCham กว่าครึ่งระบุว่า จีนเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจในประเทศมากกว่าบริษัทต่างชาติ ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ขณะเดียวกัน 33% ระบุว่า นโยบายของจีนที่เกี่ยวกับบริษัทต่างชาติยํ่าแย่ลงไปกว่าในอดีต ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายว่า ด้วยความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ต (cybersecurity law) ฉบับใหม่ ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 กำหนดให้ทุกบริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ภายในประเทศจีนและต้องผ่านการตรวจสอบจากรัฐบาลจีนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ซึ่งจุดนี้ บริษัทอเมริกันกล่าวว่าไม่เป็นธรรม เพราะเป็นการสกัดคู่แข่งต่างชาติไม่ให้มีโอกาสเข้ามาแข่งขันในตลาดคลาวด์ของจีน

ขณะเดียวกันการประชุมเศรษฐกิจทวิภาคี (U.S.-China Comprehensive Economic Dialogue : CED) โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐอเมริกาซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา จบลงแบบไม่มีข้อตกลงการค้า-การลงทุนใดๆออกมา รวมทั้งไม่มีการแถลงข่าวต่อสื่อหลังการประชุมทำให้บรรยากาศความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจในทางเศรษฐกิจยังคงอึมครึม ซํ้ายังก่อให้เกิดการคาดเดาว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐ อเมริกาจะดำเนินการบีบคั้นประเทศคู่ค้าด้วยมาตรการเชิงลงโทษหรือตอบโต้ เช่นกรณีการค้าเหล็กกล้าที่หลายประเทศรวมทั้งจีนและสหภาพยุโรป กำลังหวาดหวั่นว่าจะต้องเจอกับภาษีนำเข้าหรือโควตาที่เข้มงวดมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,281 วันที่ 23 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560