หวั่นคุมบัตรเครดิต กระทบใช้จ่ายชะลอ

24 ก.ค. 2560 | 00:40 น.
บลจ.แอสเซทพลัสฯ ห่วงคุมเข้มบัตรเครดิตกระทบการจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่มเฟือยประเมินผลกระทบหุ้นในพอร์ตชูกองทุนใหม่ เน้นหุ้นไทย 80% แบ่ง 20% หากำไรหุ้นเวียดนาม-ฟิลิปปินส์

นายกมลยศ สุขุมสุวรรณผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซทพลัสจำกัดเปิดเผยว่ามาตรการคุมเข้มบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่ทางการจะออกมานั้น มองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทนอนแบงก์ที่เน้นปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเท่านั้นแต่จะกระทบภาคการบริโภคโดยรวมโดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยจึงต้องประเมินว่าจะกระทบไปยังหุ้นตัวใดบ้าง

“การออกบัตรใหม่ในวงเงินที่น้อยลงหรือจำนวนบัตรน้อยใบน่าจะกระทบกับเด็กจบใหม่ เงินเดือนยังน้อยทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลงได้ เช่น มือถือ กล้องหรือสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ รวมถึงการจองคอนโดฯก็อาจกระทบบ้าง ที่ผ่านมามีการใช้บัตรเครดิตรูดวางเงินจอง จึงต้องจับตาหลังเกณฑ์ออก 2-3 เดือน”นายกมลยศ กล่าว

 อย่างไรก็ตามในช่วง 6เดือนแรกตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆผู้จัดการกองทุนมีการปรับพอร์ตลงทุน สลับตัวเล่นในหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก เพื่อหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเนื่องจากมองว่าการถือครองหุ้นไว้ โดยไม่ทำอะไรเลยไม่เป็นประโยชน์ต่อกองทุนจำเป็นต้องซื้อขายหุ้นบ้างในบางจังหวะ

สำหรับกองทุนเปิด แอสเซทพลัสเฟล็กซิเบิ้ล พลัส(ASP-FLEXPLUS) ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอขายครั้งแรกถึงวันที่1สิงหาคมนี้ อาจเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนเนื่องจากเป็นกองทุนผสมปรับพอร์ตได้ตามสภาวะและหากำไรจากตลาดหุ้นอาเซียน โดยเบื้องต้นจะลงทุนหุ้นไทย80% และ 20% ลงทุนหุ้นเวียดนามและฟิลิปปินส์เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงซึ่งกองทุนนี้คาดหวังผลตอบแทน 8-10% ต่อปีหากภาวะตลาดไม่ดีสามารถลดสัดส่วนหุ้นและลงทุนในรีทกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,281 วันที่ 23 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560