CPNRF แปลงทรัสต์จ่อกู้เงินลงทุนเซ็นทรัล-รร.ฮิลตัน พัทยา 1.19 หมื่นล.

21 ก.ค. 2560 | 07:27 น.
บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมเสนอผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนอสังหาฯ CPN แปลงสภาพเป็นกองทรัสต์ พร้อมกู้เงินสถาบันการเงิน ลงทุนสินทรัพย์ "เซ็นทรัลเฟลติวัล พัทยา บีชและโรงแรมฮิลตัน พัทยา" มูลค่าไม่เกิน 1.19 หมื่นล้าน

hil นางทิพาพรรณ ภัทรวิกรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) เปิดเผยว่า บริษัทจัดการและบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ในฐานะผู้ถือหน่วยลงทุน CPNRF เล็งเห็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยจึงแปลงสภาพกองทุน CPNRF เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (กองทรัสต์ CPNREIT) และลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินของโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีชและโรงแรมฮิลตัน พัทยา เนื่องจากกองทุน CPNRF ไม่สามารถเพิ่มทุนเพื่อลงทุนเพิ่มเติมได้แล้ว

บริษัทจัดการคาดว่าการแปลงสภาพกองทุนจะเสร็จภายในปี 2560 เพื่อให้กองทุน CPNRF และผู้ถือหน่วยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการแปลงสภาพ ทั้งนี้ กองทรัสต์ CPNREIT อาจเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในระยะเวลาพร้อมกันหรือใกล้เคียงกันกับการแปลงสภาพดังกล่าว ซึ่งจะไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน CPN มีมติอนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินครั้งที่ 1

ทั้งนี้ การแปลงสภาพกองทุนจะทำได้เมื่อที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน CPNRF อนุมัติ ซึ่งจะจัดประชุมวันที่ 4 ส.ค.2560 และรวบรวมรายชื่อโดยปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 7 ส.ค.2560 และเมื่อได้รับอนุมัติ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย CPN จะเป็นผู้ก่อตั้งทรัสต์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อก่อตั้งกองทรัสต์ CPNREIT เสร็จ โดยผู้ก่อตั้งทรัสต์จะแต่งตั้งบลจ.ไทยพาณิชย์เป็นทรัสตี โดยการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุน CPNRF กับหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์ CPNREIT อัตราส่วน 1 หน่วยลงทุนต่อ 1 หน่วยทรัสต์ โดยบริษัทจัดการจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนอีกครั้ง

สำหรับสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ CPNREIT จะลงทุนเพิ่ม มูลค่าไม่เกิน 12,570 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนสุดท้ายสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องที่กองทรัสต์ CPNREIT จะลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มมีจำนวน 1.19 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์และหรือสถาบันการเงิน โดยอาจรวมถึงการกู้ยืมเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทรัสตีของกองทรัสต์ CPNREIT จึงจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาอนุมัติและการเข้าทำธุรกรรมที่เป็นการขัดแย้งกับประโยชน์ของทรัสต์ ทั้งนี้ เงินกู้ยืมดังกล่าวไม่เกิน 35% ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ CPNREIT